ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 12 พ.ค. ท่อส่งน้ำมันโคโลเนียลสหรัฐฯ ที่ยังคงหยุดชะงัก หนุนราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ตามราคาผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะสูงขึ้นในระยะสั้น หลังท่อขนส่งน้ำมันโคโลเนียลคาดว่าจะใช้เวลาถึงสุดสัปดาห์ก่อนที่จะกลับมาดำเนินการได้ส่งผลให้น้ำมันเบนซินขาดแคลนในบางพื้นที่

+ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากรายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน พ.ค. ของโอเปกยังยืนตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 96.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเศรษฐกิจโลกที่เติบโตดีขึ้นโดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีน แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ นอกจากนี้ หลังปิดตลาด ราคายังได้รับแรงหนุนหลัง API รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า

- อุปสงค์น้ำมันดิบในอินเดียถูกกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มมากขึ้นกว่า 400,000 รายต่อวันส่งผลให้อินเดียปรับลดการนำเข้าน้ำมันดิบลง 1-2 ล้านบาร์เรลในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. นอกจากนี้โรงกลั่นในประเทศมีการปรับลดปริมาณการผลิตลงจาก 95% ในเดือน เม.ย.สู่ระดับ 85-88% ในเดือน พ.ค.

ราคาน้ำมันดิบ

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 11 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง                                                                   

เวสต์เท็กซัส 65.28 +0.36

เบรนท์ 68.55 +0.23

ดูไบ 65.69 -1.17

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 11 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง

เบนซินออกเทน 95  72.25 -1.62                                                             

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน  71.21 -1.27                                                             

ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 71.20 -1.31

น้ำมันเตา (3.5% S) 59.33 -1.79

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์น้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดวันที่ 7 พ.ค. มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.7 ล้านบาร์เรลจากอัตราการใช้โรงกลั่นที่สูงขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคถูกกดดันจากการเพิ่มความเข้มงวดมาตรการจำกัดการเดินทางในอินเดียจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง