ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -9.22 จุด วิตกเงินเฟ้อพุ่ง กระทบการผ่อนคลายการเงิน


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -9.22 จุด วิตกเงินเฟ้อพุ่ง กระทบการผ่อนคลายการเงิน

SET แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ในกรอบ 1566-90 เช่นเดียวกับตลาดหุ้นตปท.ที่ปรับตัวลง กังวลแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้การใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างมากจำเป็นต้องลดลง ด้านประชุม ครม.เห็นชอบเพิ่มเงิน 2 พันบ. “เราชนะ” / “เรารักกัน” ต่างชาติขายสุทธิ 2.02 พันลบ. 2 วันติด แต่ Long S50 Futures 11,972 สัญญา 4 วัน 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ งบที่ดีกว่าคาด-ตามคาด ช่วยจำกัด downside
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (11 พ.ค.) ปรับลงกันถ้วนหน้า นลท.พากันเทขายหุ้น ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น อาจกดดันให้ FED ดำเนินการคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้น 36 เซนต์ หรือ +0.6% ปิดที่ 65.28 $/บาร์เรล ยังคงได้แรงหนุนจากท่อส่งน้ำมัน Colonial Pipeline ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ถูกโจมตีทางไซเบอร์เพื่อเรียกค่าไถ่ โดยท่อลำเลียงหลักยังไม่สามารถใช้งานได้ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ออกข้าง แม้นลท.ระมัดระวังต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ แต่ผลประกอบการของบจ.ไทยที่ส่วนใหญ่ดีกว่าคาดถึงตามคาด น่าจะช่วยจำกัด downside ของตลาดในระยะสั้น สังเกตได้จาก SET เมื่อวานสามารถดีดกลับจากจุดต่ำสุดของวันได้ คาดนลท.จะรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (ตลาดคาด +3.6% YoY, +0.2% MoM) และความเห็นของรองปธ.FED คาดจะมองการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว และยังส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปจนกว่าจะมั่นใจศก.ฟื้นตัวอย่างแท้จริง แนวรับ 1570, 1560 แนวต้าน 1590, 1596 
 
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง แนะเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย, เน้นตั้งรับ
 
คาดทิศทางตลาดระยะสั้นยังผันผวนสูง การเทรดดิ้ง-เก็งกำไรระยะสั้น จึงเหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง ลงซื้อ-ขึ้นขาย เน้นตั้งรับ ไม่หวังส่วนต่างราคามาก / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะอ่อนตัวทยอยซื้อสะสม
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick III – เราเริ่มวิเคราะห์หุ้น III ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.5 บ. จากความสามารถในการหารายได้และอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นโดดเด่น จากการทำ M&A ทุกปี ขณะที่ธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักบริษัท คาดได้ประโยชน์จากการค้าและศก.โลกที่ฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนและการทยอยเปิดศก. ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์-สินค้าอันตราย และอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยรวมคาดจะช่วยหนุนกำไร 2 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 17.5% / ผลทบทวนดัชนี MSCI (มีผลใช้ราคาปิด 27 พ.ค.) Global Standard เข้า 2 ตัว – CBG, SCGP ออก 2 ตัว – KBANK-F, DTAC / Small Cap เข้า 8 ตัว – ACE, PSL, RCL, SCCC, SINGER, SYNEX, TTA, TOA ไม่มีออก / ตลท.ชะลอการปรับเกณฑ์การคำนวณดัชนีด้วยวิธี “Free Float Adjusted Market Cap.” แบบไม่มีกำหนด หลังการเปิดรับฟังความคิดเห็นมีผู้ที่เกี่ยวข้องไม่เห็นด้วยจำนวนมาก อาจกดดันราคาหุ้นที่เคยคาดว่าจะได้ประโยชน์ เช่น BBL, KBANK, SCB, SCC, BDMS, CPALL แต่ในทางกลับกัน จะช่วยปลดล็อกความกังวลหุ้นที่คาดว่าจะเสียประโยชน์ก่อนหน้านี้ อาทิ AOT, DELTA, OR, GULF / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการระบาด – STGT, STA, SYNEX, COM7, HANA, KCE ขณะที่หุ้นเสียประโยชน์ คือ หุ้นท่องเที่ยวและการบริโภคในปท. / หุ้นที่คาดงบดีโค้งสุดท้าย – BCH, CHG, EASTW, GULF, JWD, NYT, ORI, PTG, PTT, PTTGC, ROJNA, SCCC, STEC, STGT, STA, SYNEX, TASCO, TFG, TPIPL, TWPC / หุ้นคาดเข้า SET50 – เบื้องต้น IRPC, STGT, STA / หุ้นน่าลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี ชอบ AEONTS, BAM, BBL, CPALL, EASTW, JWD, SCGP, SISB, STEC, TOP
 
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BCH, EASTW, HMPRO, JWD, SCGP, STGT, TVO 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 พ.ค. 2564 เวลา : 11:29:10

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:35 am