ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 17 พ.ค. ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดกว่า 3%
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังท่อขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐฯ กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์สามารถกลับมาเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปจากโรงกลั่นน้ำมันแถบชายฝั่งสหรัฐฯ ไปยังภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังถูกปิดเนื่องจากถูกโจมตีทางไซเบอร์เป็นเวลานานกว่า 6 วัน
+ ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยืนยันว่าจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและกลับมาลงทุนในตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบจะมีราคาน่าดึงดูดใจสำหรับผู้ถือครองในเงินสกุลอื่น
- อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินเดียที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในอินเดียที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 14 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 65.37 +1.55
เบรนท์ 68.71 +1.66
ดูไบ 66.67 +0.04
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 14 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 76.50 -0.04
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 72.58 -0.05
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 72.60 -0.05
น้ำมันเตา (3.5% S) 60.88 -0.02
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังท่อขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ในสหรัฐฯ สามารถกลับมาดำเนินการขนส่งได้อีกครั้ง ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลง โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันสูงขึ้น ส่งผลให้มีการประกาศมาตรการเข้มงวดทางสังคมอีกครั้ง
ข่าวเด่น