สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -4.56 จุด ขาดปัจจัยชี้นำใหม่ รอรายงานประชุม FED
SET แกว่ง +/- พักฐานในกรอบ 1557-70 ตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ รอติดตามรายงานประชุม FED ขณะที่รายงานประชุมกนง. ระบุศก.ไทยขยายตัวชะลอลงมากจากการระบาดรอบใหม่ ให้ความสำคัญกับวัคซีนต้องเพียงพอและทันการณ์ ต่างชาติขายสุทธิ 2.39 พันลบ. 8 วันติด แต่ Long S50 Futures 9,609 สัญญา 4 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อิงลบ วิตกเงินเฟ้อ, น้ำมันร่วง, ตลาดคริปโตปั่นป่วน
หุ้นโลกเมื่อวาน (19 พ.ค.) ดิ่งลง วิตกเงินเฟ้อ และตลาดคริปโตฯ ปั่นป่วน กดดันบรรยากาศการลงทุนหุ้นเทคโนโลยี โดยหุ้นยุโรปร่วงมากกว่า 1% ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเช่นกัน แต่สามารถฟื้นตัวได้จากจุดต่ำระหว่างวัน มีแรงซื้อหุ้นผู้ผลิตชิปช่วยพยุงตลาดลดช่วงลบ ขณะที่รายงานประชุม FED ครั้งก่อนเห็นตรงกันว่าการฟื้นตัวศก.สหรัฐฯ ยังห่างไกลเป้าหมายของ FED แต่เป็นครั้งแรกที่บางท่านเห็นว่าควรเริ่มนึกถึงการชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงินหากศก.ฟื้นตัวได้เร็วมาก ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงมากกว่า 2$ หรือ -3.3% ปิดที่ 63.36$/บาร์เรล จากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และกังวลอุปทานน้ำมันจากอิหร่าน หลังการเจรจานิวเคลียร์คืบหน้า มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงและความกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ขณะที่กระแส Fund Flows ยังเป็นลบจาก MSCI Rebalancing ในช่วงปลายเดือนนี้ อย่างไรก็ดี การปรับประมาณการกำไรขึ้น หลังภาพรวมกำไร Q1 ดีกว่าคาด และรัฐเตรียมกู้เงินเพิ่ม 7 แสนลบ. เพื่อกระตุ้นศก. คาดจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงในช่วงตลาดปรับฐานได้ แนวรับ 1558, 1550+/- แนวต้าน 1570, 1580
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง แนะเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย, เน้นตั้งรับ
แนะใช้กรอบ SET 1530-1570 ในการเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้น หาก SET ปิดต่ำกว่า 1550 จะเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี, มอง SET ยังอยู่ในช่วงการปรับฐานจนกว่าจะปิดเหนือ 1590 ได้ / พอร์ตลงทุน หาจังหวะอ่อนตัวทยอยซื้อสะสม
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BEC – เป็นหุ้น Turnaround จากแนวโน้มผลประกอบการปีนี้คาดพลิกมีกำไร 638 ลบ.และกลับมาจ่ายปันผลได้ครั้งแรกในรอบ 3 ปี อานิสงส์จาก 1) การปรับโครงสร้างองค์กร และบริหารควบคุมต้นทุน และ 2) การต่อยอดธุรกิจขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปตปท.มากขึ้น, แนวโน้มผลประกอบการ 2Q21F คาดโตสวนภาวะอุตฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอก 3 เนื่องจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มข่าว “เรื่องเล่า” หลังจากคุณสรยุทธ์ ได้กลับมาดำเนินรายการตั้งแต่ต้น พ.ค. ส่งผลให้มีอัตราการใช้สื่อโฆษณาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเป็น 75% จาก 60% ใน เม.ย., เป้าพื้นฐาน 13 บ. / หุ้นที่กำไรดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น เด่น AP, BANPU, BCP, EASTW, KCE, SAT, SCC, TOA, TVO / ผลทบทวนดัชนี MSCI (มีผลราคาปิด 27 พ.ค.) Global Standard เข้า 2 ตัว – CBG, SCGP ออก 2 ตัว – KBANK-F, DTAC / Small Cap เข้า 8 ตัว – ACE, PSL, RCL, SCCC, SINGER, SYNEX, TTA, TOA ไม่มีออก / หุ้นคาดเข้า SET50 – เบื้องต้น IRPC, STGT, STA / หุ้นคาดกำไรดีต่อเนื่องในครี่งปีหลัง แนะหาจังหวะซื้อสะสม – BCH, BEC, EASTW, COM7, III, JWD, KCE, PTTGC, RS, SCGP, STEC / ตลท.ชะลอการปรับเกณฑ์การคำนวณดัชนีด้วยวิธี “Free Float Adjusted Market Cap.” แบบไม่มีกำหนด หลังมีผู้ที่เกี่ยวข้องไม่เห็นด้วยจำนวนมาก อาจกดดันราคาหุ้นที่เคยคาดว่าจะได้ประโยชน์ เช่น BBL, KBANK, SCB, SCC, BDMS, CPALL แต่ในทางกลับกัน จะช่วยปลดล็อกความกังวลหุ้นที่คาดว่าจะเสียประโยชน์ก่อนหน้านี้ อาทิ AOT, DELTA, OR, GULF / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการระบาด – STGT, STA, SYNEX, COM7, HANA, KCE ขณะที่หุ้นเสียประโยชน์ คือ หุ้นท่องเที่ยวและการบริโภคในปท.
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BCH, EASTW, HMPRO, JWD, SCGP, STGT, TVO
ข่าวเด่น