ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 21 พ.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากความกังวลอิหร่านเตรียมกลับมาส่งออกเพิ่มในเร็วนี้
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่า 2% ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังถูกกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยอิหร่านเปิดเผยว่าการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านมีความคืบหน้ามาก ส่งผลให้ในเร็วนี้ สหรัฐฯ คาดจะมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านและทำให้อิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันดิบมากขึ้น
- การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเอเชีย ส่งผลให้หลายประเทศ อาทิเช่น อินเดีย ไต้หวัน สิงคโปร์ และไทย มีการบังคับใช้มาตรการจำกัดการเดินทางหรือมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในระยะสั้นอาจได้รับแรงกดดัน
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เปิดเผยในรายงานการประชุมของวันที่ 27-28 เม.ย. ว่าอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว ทำให้ FED มีแนวโน้มที่จะปรับลดวงเงินของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 20 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 62.05 -1.31
เบรนท์ 65.11 -1.55
ดูไบ 65.16 -1.05
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 20 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 75.25 -0.41
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 70.74 -0.83
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 71.58 -0.71
น้ำมันเตา (3.5% S) 57.55 -0.009
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ และปริมาณการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มปรับลดลง และปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ข่าวเด่น