ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -7.70 จุด ทิ้งตัวลงภาคบ่าย ต่างชาติขายต่อเนื่อง


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -7.70 จุด ทิ้งตัวลงภาคบ่าย ต่างชาติขายต่อเนื่อง

SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1554-68 แม้ภาคเช้าขยับขึ้นเล็กน้อยจากแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัว แต่ภาพรวมถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และความกังวลต่อเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรในภาคบ่าย ผสานกับต่างชาติยังขายสุทธิ 1.63 พันลบ. 9 วันติด และพลิก Short S50 Futures 3,492 สัญญา ยุติ Long 4 วันติด 

ทิศทางตลาดวันนี้ : ดีดกลับอ่อนๆ ข้อมูลแรงงาน US แกร่ง แต่ราคาน้ำมันถ่วง
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (20 พ.ค.) ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นสหรัฐฯ ยุติร่วง 3 วันติด ขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ลดลงแตะ 444,000 ราย ดีกว่าตลาดคาดที่ 452,000 ราย และเป็นระดับต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่มีการระบาด COVID-19 เมื่อต้นปีที่แล้ว สร้างความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการเติบโตของศก.โลก ผสานกับตลาดคริปโตฯ เริ่มมีเสถียรภาพ ช่วยกระตุ้นบรรยกาศการลงทุนโดยรวม โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Tesla เป็นต้น ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 3 วันติด -1.31$ ปิดที่ 62.05$/บาร์เรล กังวลอุปทานน้ำมันจากอิหร่าน หลังการเจรจานิวเคลียร์คืบหน้า มอง SET มีแนวโน้มดีดกลับ อานิสงส์บวกจาก Sentiment หุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้น จากข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี หุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหว “Underperform” เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับหุ้นเทคโนโลยีค่อนข้างน้อย และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง คาดจะถ่วงราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นที่เกี่ยวข้องด้วย ขณะที่กระแสเงินทุนตปท.ยังเป็นลบต่อเนื่อง แนะติดตามการประชุม ศบค. พิจารณาต่ออายุการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และตัวเลข PMI ภาคผลิตและภาคบริการเบื้องต้นใน พ.ค. แนวรับ 1550, 1545 แนวต้าน 1565, 1570 อนึ่ง คาด BWG, GENCO, INGRS, ITD, KOOL, NWR, PROEN, SKE, VIBHA-W3, WINMED, WORK จะติด Cash Balance เย็นนี้  
 
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง แนะเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย, เน้นตั้งรับ
 
มอง SET ยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน แนะใช้กรอบ SET 1530-1570 ในการเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้น หาก SET ปิดต่ำกว่า 1550 จะเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี แต่หากทะลุ 1570 จะเริ่มดูดีมากขึ้น / พอร์ตลงทุน อ่อนตัวหาจังหวะสะสม 
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick CHG – จากการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารยังคงเป้ารายได้และกำไรปีนี้เติบโตระดับ 2 หลัก หลัก ๆ จากการตรวจหาเชื้อ COVID-19 และรายได้ค่าบริหารที่เพิ่มขึ้นจากรพ.ใหม่ 2 แห่ง รวมทั้งได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคมสูงขึ้น ขณะที่คนไข้ทั้งในปท.และต่างชาติ คาดจะทยอยปรับตัวดีขึ้นตลอดทั้งปีนี้, เป้าพื้นฐาน 3.6 บ. / หุ้นที่กำไรดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น เด่น AP, BANPU, BCP, EASTW, KCE, SAT, SCC, TOA, TVO / ผลทบทวนดัชนี MSCI (มีผลราคาปิด 27 พ.ค.) Global Standard เข้า 2 ตัว – CBG, SCGP ออก 2 ตัว – KBANK-F, DTAC / Small Cap เข้า 8 ตัว – ACE, PSL, RCL, SCCC, SINGER, SYNEX, TTA, TOA ไม่มีออก / หุ้นคาดเข้า SET50 – เบื้องต้น IRPC, STGT, STA / หุ้นคาดกำไรดีต่อเนื่องในครี่งปีหลัง แนะหาจังหวะซื้อสะสม – BCH, BEC, EASTW, COM7, III, JWD, KCE, PTTGC, RS, SCGP, STEC / ตลท.ชะลอการปรับเกณฑ์การคำนวณดัชนีด้วยวิธี “Free Float Adjusted Market Cap.” แบบไม่มีกำหนด หลังมีผู้ที่เกี่ยวข้องไม่เห็นด้วยจำนวนมาก อาจกดดันราคาหุ้นที่เคยคาดว่าจะได้ประโยชน์ เช่น BBL, KBANK, SCB, SCC, BDMS, CPALL แต่ในทางกลับกัน จะช่วยปลดล็อกความกังวลหุ้นที่คาดว่าจะเสียประโยชน์ก่อนหน้านี้ อาทิ AOT, DELTA, OR, GULF / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการระบาด – STGT, STA, SYNEX, COM7, HANA, KCE ขณะที่หุ้นเสียประโยชน์ คือ หุ้นท่องเที่ยวและการบริโภคในปท.
 
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BCH, EASTW, HMPRO, JWD, SCGP, STGT, TVO 
 

บันทึกโดย : วันที่ : 21 พ.ค. 2564 เวลา : 12:01:29

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:07 pm