ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 31 พ.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลังความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี จากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง นำโดยการฟื้นตัวของสหรัฐฯ สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 63 นอกจากนี้ ความต้องการใช้ของสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวในวัน Memorial Day
+/- กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (OPEC+) มีแนวโน้มคงมติในการปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในการประชุมวันที่ 1 มิ.ย. หลังยังรอความชัดเจนของข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยมติเดิมคือกลุ่มโอเปกจะทยอยเพิ่มการผลิต 350,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน มิ.ย. และ 441,000 บาร์เรลต่อ วันในเดือน ก.ค.
- ตลาดจับตาความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วนี้และสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจะส่งผลให้อิหร่านสามารถเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นได้
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 28 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 66.32 -0.53
เบรนท์ 69.63 +0.17
ดูไบ 67.63 +1.12
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 28 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 77.62 +1.18
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 72.60 +0.84
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 73.07 +0.65
น้ำมันเตา (3.5% S) 60.18 +1.11
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ หลังจีนส่งออกน้ำมันเบนซินมายังสิงคโปร์ลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่อุปสงค์ชะลอตัว อย่างไรก็ดี ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบปี
ข่าวเด่น