สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -6.02 จุด ขายทำกำไร/ชะลอลงทุน รอดูการจ้างงาน US
SET แกว่ง +/- ในกรอบแคบ 1611-22 ปรับตัวลง 2 วันติด เผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีผลต่อนโยบายการเงินของ FED แม้มีปัจจัยบวกในปท.จากข่าวการเปิดภูเก็ตนำร่องรับนทท.ต่างชาติ 1 ก.ค. ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 3.57 พันลบ. และ Short S50 Futures 11,583 สัญญา 4 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : รีบาวด์ คลายกังวล FED ไม่รีบปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน
หุ้นโลกวันศุกร์ (4 มิ.ย.) ปรับตัวขึ้น ดัชนี DJ ของสหรัฐฯ +179 จุด ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นอย่างมาก 559,000 ตำแหน่ง จากเดือน เม.ย.ที่ 278,000 ตำแหน่ง แม้จะต่ำกว่าตลาดคาดที่ 671,000 ตำแหน่ง แต่กลับช่วยให้นลท.คลายความกังวล FED ไม่น่ารีบร้อนปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินไปในทางที่เข้มงวดขึ้น เนื่องจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ร้อนแรงจนน่าวิตกกังวล ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ขึ้นยืนเหนือระดับ 69 $/บาร์เรล ขานรับอุปสงค์น้ำมันที่สูงขึ้นจากการทยอยเปิดศก.อย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ ปท. และกลุ่ม OPEC+ ยังคงรักษาข้อตกลงการผลิตน้ำมัน มอง SET มีโอกาสรีบาวด์ นอกจากจะคลายกังวล FED ไม่น่ารีบร้อนปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินแล้ว น่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นด้วย ขณะที่ไทยจะเริ่มดีเดย์ฉีดวัคซีนในวงกว้างพร้อมกันวันนี้ หากเป็นไปอย่างราบรื่นตามแผน จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นนลท. เป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แนวรับ 1610+/- (แถวปิดในปัจจุบันเลย), 1600-1605 แนวต้าน 1620, 1630 อนึ่ง B, B-W4 ติด Cash Balance 7-25 มิ.ย. / AEC, AEC-W6 ติดระดับ 2 (Cash Balance และห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย) ?
กลยุทธ์การลงทุน : ปรับกรอบเทรดดิ้งสั้นขึ้นเป็น 1595-1650 ลงซื้อ-ขึ้นขาย
ตามที่เราประเมินไว้ SET สามารถขึ้นทะลุ 1610 ได้ เล็งเป้าถัดไปที่ 1640-50 และกำหนดจุด Trailing Stop Loss ของการเทรดดิ้งรอบนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 1595 เน้นหุ้นใหญ่-กลางที่ราคายังขึ้นช้า / พอร์ตลงทุน หาจังหวะทยอยสะสม
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick CPALL – เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 6.6 หมื่นลบ.ในช่วงกลางเดือนนี้เพื่อทดแทนเงินกู้เดิมที่ใช้ซื้อกิจการ Lotus’s, มีแนวโน้มที่อัตราดบ.จะลดลงกว่าที่เราประเมินไว้ในปัจจุบันที่ 3.6% และเงินกู้เดิมที่ 4.6% โดยหากอัตราดบ.เฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 3.18% จะช่วยลดภาระดบ.จ่ายลง 100 ลบ./ไตรมาส, ถึงแม้ผลประกอบการ Q2 จะได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ แต่คาดเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ และจะฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นในช่วง 2 ปีข้างหน้าจากการเปิดศก.หลังมีวัคซีนและเปิดรับนทท.ต่างชาติ, เป้าพื้นฐาน 70 บ. / กระแสส่งเสริมรถ EV และแบตเตอรี่ EV เป็น Sentiment บวกต่อ EA, GPSC, PTT, BANPU, BCPG, ROJNA รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญในรถยนต์ SAT, STANLY / หุ้น Re-opening และหุ้นอิงการบริโภคในปท. คาดจะได้ประโยชน์จากความคืบหน้าวัคซีนและมาตรการกระตุ้นศก.จากภาครัฐอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ชอบ AOT, CPALL, MAKRO, COM7, KISS, MAJOR, SPA / ผลทบทวนดัชนี FTSE มีผล 18 มิ.ย. Large Cap – เข้า OR, SCGP ไม่มีออก / Mid Cap – ไม่มีเข้าและออก / Small Cap – เข้า KEX ออก THAI / Micro Cap – เข้า JR, NEX, NRF, RT, SA, SO ไม่มีออก/ หุ้นคาดเข้า SET50 – IRPC, STGT, STA ออก VGI, BAM, TOA หุ้นคาดเข้า SET100 – STGT, STARK, M, BLA, RCL, TTA, DCC, PSL ออก GFPT, WHAUP, MAJOR, PRM, BEC, ORI, AMATA, STEC / หุ้นคาดกำไรดีต่อเนื่องในครี่งปีหลัง แนะหาจังหวะซื้อสะสม – BCH, BEC, EASTW, COM7, JWD, KCE, PTTGC, RS, SCGP, STEC
• หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) CPN, PTT
• หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) BAM, BTS, CPALL, CPN, ROJNA, SPALI, STGT, TPIPL
ข่าวเด่น