ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 10 มิ.ย. ราคาน้ำมันดิบคงตัว หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ พุ่ง
+/- ราคาน้ำมันดิบคงตัว หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มิ.ย. 64 พุ่งสูงขึ้น 7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 241 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 698,000 บาร์เรล เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงหลังช่วงวันหยุดยาว ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากโรงกลั่นเพิ่มกำลังการผลิต
+ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์การเติบโตของปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในปีนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ที่ 1.49 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.39 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+/- ตลาดยังคงจับตาความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ซึ่งอาจส่งผลให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันดิบอีกครั้ง ในขณะที่สหรัฐฯ กล่าวว่าจะยังคงมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านต่อไป
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 9 มิ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 69.96 -0.09
เบรนท์ 72.22 +0.00
ดูไบ 71.27 +1.84
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 9 มิ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 78.89 +2.67
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 75.89 +2.18
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 76.74 +1.85
น้ำมันเตา (3.5% S) 63.98 +1.40
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคตึงตัว จากการลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในจีนและอินเดีย ส่งผลให้มีการส่งออกน้ำมันเบนซินลดลง นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของปากีสถานที่เพิ่มสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลจากอินโดนีเซียเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอ่อนแอ โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ข่าวเด่น