ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 17 มิ.ย. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการผลิตสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 มิ.ย. 64 ปรับตัวลดลง 7.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล
+/- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมทั้งยังคงมาตรการในการซื้อพันธบัตรอย่างน้อย 1.2 แสนล้านต่อเดือน อย่างไรก็ตาม FED เริ่มส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่จะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไปจนถึงปี 2567
+ การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านยังคงไม่มีความคืบหน้า และมีแนวโน้มที่จะช้ากว่ากำหนดการณ์เดิมที่ตั้งไว้ว่าจะบรรลุข้อตกลงให้ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านในวันที่ 18 มิ.ย. ส่งผลให้อุปทานจากอิหร่านมีแนวโน้มกลับมาช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 16 มิ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 72.15 +0.03
เบรนท์ 74.39 +0.40
ดูไบ 72.87 +0.95
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 16 มิ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 80.79 +0.92
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 77.15 +0.88
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 78.24 +1.11
น้ำมันเตา (3.5% S) 66.22 +1.32
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้นจากอินเดีย
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากการส่งออกของจีนปรับลดลงในเดือน มิ.ย. นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะจากอินเดีย
ข่าวเด่น