สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -7.14 จุด FED เล็งขึ้นดบ.ในปี 2023 เร็วขึ้นกว่าเดิม SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1615-31 ผันผวนท่ามกลางข่าวเชิงบวกในปท. หลังนายกฯ ตั้งเป้าเปิดปท.ให้ได้ภายใน 120 วัน ปะทะกับข่าวเชิงลบจากตปท. หลังที่ประชุม FED เล็งขึ้นดบ. 2 ครั้งในปี 2023 เร็วกว่าเดิมที่จะไม่ปรับดบ.จนถึงสิ้นปี 2023 ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 2.88 พันลบ. และ Short S50 Futures 4,089 สัญญา 2 วันติด n
ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนตัวลง ดอลล์แข็งค่าสุดรอบ 2 เดือน, น้ำมันร่วง 1.5% หุ้นโลกเมื่อวาน (17 มิ.ย.) ปิดผสมผสาน โดยดัชนี DJ ร่วง 210 จุด แต่ดัชนีS&P500 ปิดทรงตัว ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปรับขึ้นราว 0.8% แม้มีแรงขายหุ้นวัฎจักรตามราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง ถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน หลัง FED เล็งขึ้นดบ. 2 ครั้งในปี 2023 ซึ่งเป็นท่าทีที่เข้มงวดเร็วกว่าเดิม แต่มีแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยี หลัง Bond Yields ปรับลงแรง มอง SET มีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าเร็ว 2 วันติด อาจกดดัน Foreign Fund Flows ระยะสั้น อย่างไรก็ดี ลุ้นประชุมศบค.วันนี้อาจพิจารณาผ่อนคลายเปิดร้านอาหารเต็มรูปแบบ รวมทั้งรายละเอียดนำร่องเปิดภูเก็ตรับนทท.ต่างชาติช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อการเปิดปท. วันนี้ระวัง FTSE Rebalancing อาจสร้างความผันผวนช่วงท้ายตลาด แนวรับ 1610, 1605 แนวต้าน 1620-25, 1630-32 อนึ่ง คาด ADD, IMH, INGRS, JAS, MACO, MACO-W2, PSTC, SEAOIL, SIMAT, SIMAT-W3, SIMAT-W4, RS-W4 จะติด Cash Balance n
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งสั้นใช้กรอบ SET 1595-1650 ลงซื้อ-ขึ้นขาย การเทรดดิ้งสั้นแนะใช้กรอบ SET 1595-1650 ลงซื้อ-ขึ้นขาย โดยกำหนดจุด Stop Loss รอบนี้เมื่อปิดต่ำกว่า 1595, เราชอบหุ้นใหญ่-กลางที่ราคายังปรับตัวขึ้นช้าและมีสตอรี่ Re-opening หนุน / พอร์ตลงทุน หาจังหวะทยอยสะสม
· ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick RBF – แม้กำไร 1Q21 ต่ำกว่าคาด แต่หลัก ๆ มาจากการบันทึกด้อยค่าในธุรกิจโรงแรม ขณะที่ธุรกิจหลัก คือ การจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารยังเป็นไปตามคาด, แนวโน้มกำไรทุกไตรมาสที่เหลือของปีนี้คาดจะกลับมาเติบโตทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากไม่มีผลขาดทุนจากธุรกิจโรงแรมที่ขายออกไปมาถ่วงอีก และจะเริ่มรับรู้รายได้ธุรกิจใหม่ “Terpene” ตั้งแต่ Q2 เป็นต้นไป ส่วนธุรกิจกัญชา-กัญชงคาดจะเริ่มรับรู้รายได้ใน Q4 ปีนี้หลังได้ใบอนุญาตแล้ว ซึ่งมีความต้องการสูงทั้งจากอุตฯ อาหาร-เครื่องดื่ม และอุตฯ เครื่องสำอาง, เป้าพื้นฐาน 21.25 บ / หุ้นขนาดใหญ่-กลางที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและมาตรการรัฐกระตุ้นการบริโภค แต่ราคายังฟื้นตัวช้าอยู่ - BAM, BDMS, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, WHA / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing - AOT, BDMS, BJC, EA, KCE, SCC, UTP / หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น หาจังหวะสะสม กลุ่มรับเหมา (คาดจะมีข่าวงานภาครัฐทยอยเปิดประมูลในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า) - CK, STEC และกลุ่มได้ประโยชน์ส่งออกขยายตัวดี ชอบ CPF, KCE, JWD, SCGP / ธุรกิจกัญชา – RBF, ICHI, SAPPE, KISS / กระแสส่งเสริมรถ EV และแบตเตอรี่ EV เป็น Sentiment บวกต่อ EA, GPSC, PTT, BANPU, BCPG, ROJNA รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญในรถยนต์ SAT, STANLY / ผลทบทวนดัชนี FTSE มีผล 18 มิ.ย. Large Cap – เข้า OR, SCGP ไม่มีออก / Mid Cap – ไม่มีเข้าและออก / Small Cap – เข้า KEX ออก THAI / Micro Cap – เข้า JR, NEX, NRF, RT, SA, SO ไม่มีออก / หุ้นเข้า SET50 – IRPC, KCE, STGT, STA ออก AWC, VGI, BAM, TOA หุ้นเข้า SET100 – AAV, ICHI, NRF, PSL, PTL, SINGER, STGT, SYNEX, TKN ออก AWC, BPP, EPG, GFPT, MBK, TOA, TPIPP, TTW, WHAUP
· หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) AWC, KKP
· หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) BAM, BTS, CPALL, CPN, ROJNA, SPALI, STGT, TPIPL n
ข่าวเด่น