ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 21 มิ.ย. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังอุปทานน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ เติบโตอย่างจำกัด
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปกระบุว่ามีการคาดการณ์การเติบโตของกำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเพียง 2 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด ในขณะที่ปี 2565 กำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ จะเติบโตที่ 5 แสนถึง 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกฟื้นตัว เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันทั่วโลกล่าสุดปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ราว 3-4 แสนราย ซึ่งลดลงจากช่วงระดับสูงสุดในเดือน เม.ย. -พ.ค. 64 ที่ราว 8 แสนราย
- บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 8 แท่น ไปอยู่ที่ระดับ 373 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 หลังราคาน้ำมันมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 18 มิ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 71.64 +0.60
เบรนท์ 73.51 +0.43
ดูไบ 71.08 -1.04
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 18 มิ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 79.53 -1.05
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 75.60 -1.20
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 76.63 -1.26
น้ำมันเตา (3.5% S) 64.48 -1.81
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกจากจีนที่ลดลง และความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินเดียที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น 17.5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการส่งออกที่ลดลงจากจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น 15.0% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ข่าวเด่น