ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +12.26 จุด เทคนิคอลรีบาวด์ มีแรงซื้อหุ้นใหญ่ดันดัชนี


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +12.26 จุด เทคนิคอลรีบาวด์ มีแรงซื้อหุ้นใหญ่ดันดัชนี

SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1579-96 ปรับตัวในทิศทางที่ดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลงและดีกว่าที่เราประเมินไว้ จากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ (DELTA, SCC, AOT, CBG, BAY) ผลักดันดัชนีรีบาวด์ทางเทคนิค ยุติร่วง 8 วันติด ต่างชาติขายสุทธิ 429 ลบ. 3 วันติด และ Short S50 Futures เล็กน้อย 164 สัญญา 2 วันติด 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อิงทางบวก แรงเก็งกำไรหุ้นรายตัว, Window Dressing
 
หุ้นโลกและราคาน้ำมันเมื่อวาน (29 มิ.ย.) ขยับขึ้นเล็กน้อย ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดสูงสุดใหม่ ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2020 ก่อนการระบาด COVID-19 และดัชนีความเชื่อมั่นศก.สหภาพยุโรปใน มิ.ย. ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 21 ปี จากมุมมองเชิงบวกต่อการเปิดกิจกรรมทางศก.อย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงซื้อโดดเด่นในหุ้นกลุ่มแบงก์และหุ้นเทคโนโลยี หลัง Morgan Stanley ปรับเพิ่มเงินปันผล และเชื่อมั่นการฟื้นตัวของศก.ที่แข็งแกร่ง โดยตลาดรอติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ วันศุกร์นี้ ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อนโยบายการเงินของ FED ในอนาคต มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ ให้น้ำหนักอิงทางบวก หลังเมื่อวานมีแรงซื้อกลับหุ้นขนาดใหญ่ช่วยให้บรรยากาศการลงทุนกระเตื้องขึ้น และคาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่ได้ประโยชน์จากการระบาด และหุ้นส่งออกที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า อย่างไรก็ดี มองกรอบรีบาวด์ยังจำกัดที่บริเวณ 1600-1610 แนวรับ 1580 แนวต้าน 1595, 1605 อนึ่ง ARIP ติด Cash Balance 30 มิ.ย. – 20 ก.ค. จากมาตรการ Trading Alert / EFORL, SABUY, SABUY-W1 ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 20 ก.ค. 
 
กลยุทธ์การลงทุน : Wait & See เป็นกลยุทธ์หลัก รอจังหวะเปิดเทรดรอบใหม่ 
 
มองยังเร็วเกินไปที่จะกลับเข้าไปเทรดดิ้งสั้น แนะ Wait & See เป็นกลยุทธ์หลัก แต่หากรับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว ลงซื้อ-ขึ้นขาย ไม่หวังส่วนต่างราคามาก / พอร์ตลงทุน แนะรอซื้อสะสมที่ต่ำกว่า 1560 ลงมา
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick JWD – เป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการโลจิสติสก์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรในภูมิภาคนี้ มองได้ประโยชน์จากการส่งออกและศก.โลกที่ฟื้นตัว, ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 5 พันลบ. และจะขึ้นแตะระดับ 1 หมื่นลบ.ในช่วง 5 ปีข้างหน้าจากการเติบโตทั้งจากภายใน และการทำ M&A จากภายนอก, คาดกำไรหลักปีนี้และปีหน้าจะเติบโตสูง +27% และ +25% ตามลำดับ, ยังแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 15.5 บ. / หุ้นขนาดใหญ่-กลางที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและมาตรการรัฐกระตุ้นการบริโภค แต่ราคายังฟื้นตัวช้า - BAM, BDMS, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, WHA / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing - AOT, BDMS, BJC, EA, KCE, SCC, UTP / หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น หาจังหวะสะสม กลุ่มรับเหมา (คาดจะมีข่าวงานภาครัฐทยอยเปิดประมูลในช่วง 1-2 เดือนนี้) - CK, STEC และกลุ่มได้ประโยชน์ส่งออกขยายตัวดี ชอบ CPF, TU, KCE, JWD, SCGP / ธุรกิจกัญชา – RBF, RS, ICHI, SAPPE, KISS / หุ้นเข้า SET50 (Rebalancing 30 มิ.ย.) – IRPC, KCE, STA, STGT ออก AWC, BAM, TOA, VGI หุ้นเข้า SET100 – AAV, ICHI, NRF, PSL, PTL, SINGER, STGT, SYNEX, TKN ออก AWC, BPP, EPG, GFPT, MBK, TOA, TPIPP, TTW, WHAUP 
 
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) BDMS, STGT
• หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) BAM, BTS, CPALL, CPN, ROJNA, SPALI, STGT, TPIPL 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 มิ.ย. 2564 เวลา : 10:25:42

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:18 pm