ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 2 ก.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังโอเปกและประเทศพันธมิตรมีแนวโน้มเพิ่มการผลิตน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้
+/- ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (โอเปกพลัส) มีแนวโน้มปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้และน้อยกว่าอุปสงค์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มขาดดุลต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้ผลิตคาดจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นราว 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือน ส.ค. จนถึง ธ.ค. 64 อย่างไรก็ตาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่เห็นด้วยกับปริมาณการผลิตอ้างอิง ส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิตจะกลับมาประชุมกันอีกครั้งในวันนี้
+ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 มิ.ย. 64 ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 63 หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มถูกกดดัน หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ายังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อังกฤษ และหลายประเทศในยุโรป ส่งผลให้ประเทศในแถบเอเชียราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 1 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 75.23 +1.76
เบรนท์ 75.84 +1.47
ดูไบ 73.97 +0.98
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 1 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 85.12 +1.49
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 77.96 +1.47
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 78.94 +1.52
น้ำมันเตา (3.5% S) 67.68 +2.08
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มปรับลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากเวียดนามและแอฟริกาใต้ อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
ข่าวเด่น