สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +5.96 จุด แรงเก็งกำไรหุ้นอิงแผนภาครัฐขับเคลื่อนศก.
SET แกว่งไซด์เวย์ +/- ในกรอบ 1584-96 และปิดบวกได้เล็กน้อยจากแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มค้าปลีก-ท่องเที่ยว-รพ.ที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐขับเคลื่อนศก.เริ่ม 1 ก.ค.ทั้งโครงการคนละครึ่ง, ยิ่งใช้ยิ่งได้ และภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิเล็กน้อย 176 ลบ. ยุติขาย 4 วันติด แต่ยัง Short S50 Futures 348 สัญญา 4 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นไต่ขึ้นต่อ ปัจจัยตปท.เป็นบวก แต่ระวังแกว่งจากการทำกำไร
หุ้นโลกเมื่อวาน (1 ก.ค.) ปรับขึ้นพอประมาณ ดัชนี S&P500 เดินหน้าปิดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ 6 วันซ้อน นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันที่แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปีครึ่ง ขานรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ดีกว่าคาด และ PMI ภาคผลิต EU ขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้การประชุม OPEC+ เลื่อนไป 1 วันเป็นวันศุกร์นี้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจเพิ่มกำลังผลิตขึ้นเพียง 4 แสนบาร์เรล/วัน vs ตลาดคาดที่ 5 แสนบาร์เรล/วัน มอง SET มีลุ้นไต่ขึ้นต่อ ปัจจัยตปท.เป็นบวก ล่าสุด IMF ปรับคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ปีนี้ขึ้นเป็น +7.0% จากเดิม เม.ย. ที่คาด +4.6% จากนโยบายสนับสนุนทั้งการเงินและการคลังจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ดีต้องระวังแกว่งตัวจากการขายทำกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะบริเวณ 1600-1610 ห่วงการระบาดในปท.และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ กดดันกระแสเงินทุนตปท. ล่าสุด US Dollar Index ขึ้นทะลุจุดสูงสุดเดิม ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 92.6 จุด แนวรับ 1584, 1580 แนวต้าน 1600, 1610+/- อนึ่ง คาด INGRS, INOX, NEX, NEX-W2, TM จะติด Cash Balance เย็นนี้ / TH, XPG, XPG-W4 ถูกขยายติดถึง 22 ก.ค. / KOOL, SKE, VIBHA-W3, WINMED, WORK จะติดวันนี้เป็นวันสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว ลงซื้อ-ขึ้นขาย
มองยังไม่ต้องรีบกลับเข้าไปเทรดดิ้งสั้น แนะ Wait & See เป็นกลยุทธ์หลัก แต่หากรับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว ลงซื้อ-ขึ้นขาย ไม่หวังส่วนต่างราคามาก / พอร์ตลงทุน น่ารอซื้อสะสมที่ SET ต่ำกว่า 1560 ลงมา
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick ADVANC – เป็นหุ้นเชิงรับที่ดีในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มผันผวนจากปัจจัยกดดันทั้งสถานการณ์แพร่ระบาดในปท.และนโยบายการเงินของ FED ที่ส่งสัญญาณเข้มงวดขึ้น, ฐานราคาหุ้นปีนี้ย่ำอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่มีเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 4% ต่อปีในช่วง 2 ปีข้างหน้า น่าจะเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี, เราเริ่มเห็นพัฒนาการเชิงบวกเข้ามาหนุนบรรยากาศการลงทุน ทั้งการเปิดให้บริการ Disney+Hotstar และล่าสุดศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้บริษัทชนะคดี ไม่ต้องชำระส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติมให้แก่ กสท., เป้าพื้นฐาน 205 บ. / กระแสส่งเสริมรถ EV และแบตเตอรี่ EV เป็น Sentiment บวกต่อ EA, NEX, GPSC, PTT, BANPU, BCPG, ROJNA รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ SAT, STANLY / หุ้นขนาดใหญ่-กลางที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและมาตรการรัฐกระตุ้นการบริโภค แต่ราคายังฟื้นตัวช้า - BAM, BDMS, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, WHA / หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น หาจังหวะสะสม กลุ่มรับเหมา (คาดจะมีข่าวงานภาครัฐทยอยเปิดประมูลในช่วง 1-2 เดือนนี้) - CK, STEC และกลุ่มได้ประโยชน์ส่งออกขยายตัวดี ชอบ CPF, TU, KCE, JWD, SCGP / ธุรกิจกัญชา – DOD, RBF, KWM, GUNKUL, RS, ICHI, SAPPE, KISS
•หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) BDMS, STGT
•หุ้นเด่น ก.ค. (Smart Tactics) BCH, BDMS, BEC, JWD, KCE, NYT, TVO
ข่าวเด่น