ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 6 ก.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปกพลัสยังไม่ได้ข้อสรุปจากการเจรจาปรับระดับกำลังการผลิต
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรมีการยกเลิกการประชุมเเพื่อเจรจาเกี่ยวกับการปรับระดับการผลิตที่มีแผนจะจัดขึ้นในวันที่ 5 ก.ค. และการประชุมดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยทางกลุ่มยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับระดับการผลิตได้ แม้ว่าสมาชิกส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือน ส.ค. ถึงเดือน ธ.ค. 64 แล้วก็ตาม
+ ความต้องการใช้น้ำมันในแถบยุโรปได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากความคืบหน้าการแจกจ่ายวัคซีนและการคลายล็อคดาวน์ในภูมิภาค หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อยูโรโซนปรับเพิ่มขึ้น สู่ 59.5 แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี โดยตัวเลขดัชนีที่สูงกว่า 50 สะท้อนถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
- อุปสงค์น้ำมันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีแนวโน้มถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ส่งผลให้หลายประเทศในภูมิภาคเพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการจำกัดการเดินทางหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 5 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 75.16 ตลาดปิด
เบรนท์ 77.16 +0.99
ดูไบ 74.83 +0.64
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 5 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 87.80 +1.62
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 78.99 +0.99
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 80.05 +0.88
น้ำมันเตา (3.5% S) 68.45 +0.43
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่ตึงตัวจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงหลังความต้องการใช้ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น จากตัวเลขการใช้รถใช้ถนนในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในอินเดียมีทิศทางดีขึ้น ประกอบกับอุปทานที่ปรับลดจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนที่ปรับตัวลดลง
ข่าวเด่น