สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -2.25 จุด อ่อนแอกว่าหุ้นภูมิภาค, ขายทำกำไรหุ้นรพ.
SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1544-61 อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้น ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มรพ. กังวลรายได้ตรวจหา COVID-19 ลดลง หลังรัฐอนุมัติชุดตรวจเองที่บ้าน และกังวลดีลซื้อกิจการในเยอรมันของ PTTGC ต่างชาติขายสุทธิ 1.67 พันลบ. 6 วันในรอบ 7 วันทำการ แต่ Long S50 Futures เล็กน้อย 843 สัญญา 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ย่ำฐานในกรอบ 1540-65 รอปัจจัยขับเคลื่อนใหม่
หุ้นโลกเมื่อวาน (12 ก.ค.) ขยับขึ้นต่อเล็กน้อย โดย 3 ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ (DJ, S&P500, NASDAQ) ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เก็งผลประกอบการหุ้นกลุ่มการเงินที่จะเริ่มประกาศในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี อานิสงส์ Bond Yield ที่เปลี่ยนแนวโน้มเป็นแกว่งซิกแซ็กลงมาตั้งแต่เดือน เม.ย. จากที่เคยแตะระดับสูงสุดที่ 1.7-1.8% มาอยู่ที่ 1.3-1.4% ในปัจจุบัน ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลง 46 เซนต์ หลังพุ่งแรงเมื่อวาน มาปิดที่ 74.10 $/bbl กังวลการระบาดของสายพันธุ์เดลตา และความขัดแย้งระหว่างซาอุฯ และ UAE มอง SET แกว่งย่ำฐานในกรอบ 1540-65 ราคาหุ้นกลุ่มรพ.และ PTTGC น่าจะเริ่มยืนได้หลังเมื่อวานปรับตัวลงแรง ขณะที่แนวโน้มกำไรยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” นอกจากนี้ เชื่อว่านลท.กำลังรอติดตามปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ วันนี้แนะนำติดตามการประชุมครม.หารือมาตรการช่วยเหลือปชช. รวมถึงแนวทางการใช้จ่ายวงเงินกู้ 5 แสนลบ., ตัวเลขการค้าของจีนใน มิ.ย. และดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน มิ.ย. แนวรับ 1540-44 แนวต้าน 1560-65 อนึ่ง JTS, SANKO ติด Cash Balance 13 ก.ค. – 2 ส.ค. จากมาตรการ Trading Alert / GLOCON, GLOCON-W4 ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 2 ส.ค.
กลยุทธ์การลงทุน : พอร์ตลงทุน แนะทยอยตั้งรับแบบแบ่งซื้อ 1530, 1500-1510
มอง SET ที่ผันผวนจากสถานการณ์ระบาดในช่วงนี้ เป็นจังหวะ “ซื้อ” ของพอร์ตลงทุนเป็นรอบ แนะทยอยตั้งรับแบบแบ่งซื้อที่โซน SET 1530 และ 1500-1510 ตามลำดับ / สำหรับการเทรดดิ้งสั้น ต้องว่องไวไม่หวังส่วนต่างราคามาก
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick JMT – เป็นผู้นำการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพและเร่งรัดติดตามหนี้ โดยเฉพาะหนี้ไม่มีหลักประกัน มีประสบการณ์ในธุรกิจมากกว่า 10 ปี, แนวโน้มกำไรปี 2021-22F คาดจะเติบโตสูง +26% และ +29% ตามลำดับ มองได้ประโยชน์จากแนวโน้ม NPL ที่พุ่งขึ้นจากการระบาดฯ, บริษัทมีความแข็งแกร่งด้านฐานข้อมูล, ระบบ IT และฐานะการเงิน, เตรียมซื้อ NPL เพิ่มขึ้นเป็น 5.0 พันลบ.ในปีหน้า จากปีที่แล้วที่ซื้อมา 3.5 พันลบ., เป้าพื้นฐาน 51 บ. / 6 หุ้นเด่นจาก IAA Survey – BDMS, BEM, CPALL, GPSC, KBANK, TU มอง SET ครึ่งปีหลังแกว่งในกรอบ 1522-1670 โดยคาดปิดสิ้น Q3 ที่ 1609 และสิ้นปีที่ 1647 / กระแสส่งเสริมรถ EV และแบตเตอรี่ EV เป็น Sentiment บวกต่อ EA, NEX, GPSC, PTT, BANPU, BCPG, ROJNA รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ SAT, STANLY / หุ้นขนาดใหญ่-กลางที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและรัฐกระตุ้นการบริโภค แต่ราคายังฟื้นตัวช้า - BAM, BDMS, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, WHA / หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น หาจังหวะสะสม กลุ่มรับเหมา (คาดจะมีข่าวงานภาครัฐทยอยเปิดประมูลในช่วง 1-2 เดือนนี้) - CK, STEC และกลุ่มรับการส่งออกขยายตัวดี ชอบ CPF, TU, KCE, JWD, SCGP / ธุรกิจกัญชา – DOD, RBF, KWM, GUNKUL, RS, CBG, ICHI, SAPPE, KISS
• หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) CBG, KCE
• หุ้นเด่น ก.ค. (Smart Tactics) BCH, BDMS, BEC, JWD, KCE, NYT, TVO
ข่าวเด่น