ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 14 ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังอุปทานน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปกพลัสยังคงไม่แน่นอน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่ม หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบทั้งปีเติบโตกว่า 5.39 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับอุปทานน้ำมันดิบอาจตึงตัวจากความล้มเหลวในการเจรจาของกลุ่มโอเปกพลัส โดยทางกลุ่มได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
+ ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน และสหรัฐฯ ยังคงหยุดชะงัก หลังผู้นำจากการเลือกตั้งคนใหม่ของอิหร่านจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในเดือนหน้า ช่วยชะลอการส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่าน อย่างไรก็ดี อิหร่านอาจส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 1 ของความต้องการใช้น้ำมันดิบของโลก หากข้อตกลงสำเร็จ
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ วันสิ้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง 4.1 ล้านบาร์เรล ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นมีแนวโน้มผลิตที่อัตราสูงขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 13 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 75.25 +1.15
เบรนท์ 76.49 +1.33
ดูไบ 74.51 +0.88
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 13 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 86.54 +0.32
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 78.88 +1.00
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 79.50 +0.78
น้ำมันเตา (3.5% S) 66.75 +0.78
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในประเทศญี่ปุ่นกลับมาเปิดดำเนินการ จากการปิดซ่อมบำรุงประจำปี ท่ามกลางน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ในประเทศอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 12 ในเดือน มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี อุปสงค์โดยรวมยังถูกจำกัดจากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ของภูมิภาค
ข่าวเด่น