ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 15 ก.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุฯ บรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มระดับการผลิต
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการปรับเพิ่มระดับการผลิตน้ำมันขั้นต่ำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จากระดับ 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวันสู่ระดับราว 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มโอเปกพลัสยังไม่มีการประกาศวันประชุมกับชาติสมาชิกชาติอื่นเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มอย่างเป็นทางการ
- ตลาดยังคงกังวลต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชีย หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงปรับเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ ล่าสุดประเทศออสเตรเลียประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ในเมืองซิดนีย์อีก 14 วัน หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้นแม้ว่าจะมีการใช้มาตรการล็อคดาวน์ระดับสูงสุดแล้วก็ตาม
+ อุปสงค์ที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ค. ปรับตัวลดลง 7.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 437.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงราว 4.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 14 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 73.13 -2.12
เบรนท์ 74.76 -1.73
ดูไบ 74.82 +0.31
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 14 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 86.74 +0.20
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 79.17 +0.29
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 79.79 +0.29
น้ำมันเตา (3.5% S) 67.77 +1.02
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงถูกกดดันจากตัวเลขการใช้รถใช้ถนนประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียในช่วงเดือน ก.ค. ปรับลดลงราว 30% เมื่อเทียบกับระดับก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ยังคงถูกกดดันจากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าที่ยังคงระบาดต่อเนื่อง
ข่าวเด่น