ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 16 ก.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าโรงกลั่นจะลดกำลังการผลิตลง 22,000 บาร์เรลต่อวัน หรือ 0.4% แล้วก็ตาม โดยปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ค. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม 3.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 877,000 บาร์เรล
- ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนที่เติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 2 โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการ แสดงค่า GDP ของจีนขยายตัว 7.9% ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสาตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.1% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและการแพร่ระบาดของโควิด-19
- นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันดิบ จากการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นระหว่างซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในการปรับเพิ่มกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มโอเปกพลัสจะจัดประชุมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 15 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 71.65 -1.48
เบรนท์ 73.47 -1.29
ดูไบ 72.37 -2.45
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 15 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 84.48 -2.26
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 76.51 -2.66
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 77.24 -2.55
น้ำมันเตา (3.5% S) 65.70 -2.07
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่ตึงตัวหลังโรงกลั่นในเวียดนามจะปิดซ่อมบำรุงในเดือน ส.ค. อีกทั้งโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาใต้ประกาศเหตุสุดวิสัย เนื่องจากความไม่สงบทางการเมือง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ยังจำกัดในภูมิภาค เนื่องจากการจำกัดการเดินทางเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางการนำเข้าน้ำมันดีเซลของฮ่องกงที่เพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น