ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 19 ก.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสวนคาดการณ์
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัว โดยตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงร้อยละ 0.4 และสูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ปรับลดลงร้อยละ 1.7
+ กลุ่มโอเปกคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2565 ไปอยู่ที่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ราว 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนำโดยการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐฯ จีน และอินเดีย
- ความต้องการใช้น้ำมันยังถูกกดดัน จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้นครลอสแอนเจลิสได้กลับมาใช้มาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารอีกครั้งมีผลบังคับใช้วันที่ 17 ก.ค. 64 หลังจากมีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 16 ก.ค. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่น ไปอยู่ที่ระดับ 380 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 63
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 16 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 71.81 +0.16
เบรนท์ 73.59 +0.12
ดูไบ 72.37 +0.00
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 16 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 84.10 -0.08
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 76.55 +0.04
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 77.38 +0.14
น้ำมันเตา (3.5% S) 65.88 +0.18
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.25 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ลดลงในญี่ปุ่นจากการปิดซ่อมบำรุงและการปิดดำเนินการ
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคที่ปรับลดลง หลังจีนและญี่ปุ่นปรับลดการส่งออกน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ตาม ตลาดยังถูกกดดันจากความต้องการที่ยังจำกัดในภูมิภาค เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ข่าวเด่น