สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -18.36 จุด รัฐเพิ่มล็อกดาวน์, OPEC+ เพิ่มกำลังผลิต
SET แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1551-63 ปรับตัวลงเช่นเดียวกับทิศทางหุ้นตปท. ถูกกดดันจากรัฐยกระดับการล็อกดาวน์ภายในปท.หลังผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุหลัก 1 หมื่นคน/วัน ผสานกับ OPEC+ บรรลุข้อตกลงเพิ่มกำลังการผลิต กดดันราคาน้ำมันร่วง ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.9 พันลบ. และ Short S50 Futures 11,974 สัญญา 2 วัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนลงต่อ กังวลการฟื้นตัวศก. หลังผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งขึ้น
หุ้นโลกเมื่อวาน (19 ก.ค.) ดิ่งลงแรง ส่วนใหญ่ปรับตัวลงมากกว่า 2% กังวลการฟื้นตัวทางศก. หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จากสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายปท. โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 3.0 หมื่นคนต่อวันในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สูงกว่าค่าเฉลี่ยเดือน มิ.ย. ที่อยู่ที่ 1.1 หมื่นคนต่อวัน และใน 50 รัฐทั้งหมดของสหรัฐฯ ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 4 วันติด ผสานกับความไม่แน่นอนของนโยบายระหว่างสหรัฐฯ และจีนจากความตึงเครียดของทั้ง 2 ปท.ที่เพิ่มขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งเหว -5.39 $ ปิดที่ 66.42 $/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ถูกกดดันจากข้อตกลงการเพิ่มกำลังผลิตของ OPEC+ และการระบาดสายพันธุ์เดลตาอาจส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมัน มอง SET มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อ นอกจากการระบาดในปท.ที่ยังควบคุมไม่ได้ และราคาน้ำมันดิ่งแรงกดดันหุ้นไทยแล้ว บรรยากาศการลงทุนพลิกมาอยู่ในโหมด “Risk-off” สังเกตจากดัชนีชี้วัดค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่ปรับขึ้นแตะระดับ 93 จุด, 10Y US Bond Yield ปรับตัวลงสู่ 1.20% เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน วันนี้ติดตามอัตราดบ.เงินกู้ LPR ของจีน และการประชุมครม. แนวรับ 1550+/-, 1545 แนวต้าน 1565, 1570
กลยุทธ์การลงทุน : พอร์ตลงทุน แนะทยอยตั้งรับแบบแบ่งซื้อ 1530, 1500-1510
มอง SET ที่ผันผวนในช่วงนี้เป็นจังหวะ “ซื้อ” ของพอร์ตลงทุนเป็นรอบ แนะทยอยตั้งรับแบบแบ่งซื้อที่โซน SET 1530 และ 1500-1510 ตามลำดับ / การเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย ไม่หวังส่วนต่างราคามาก มองรีบาวด์แล้วยังเสี่ยงลงต่อ
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick EASTW – คาดงบ 2Q21F จะออกมาดีมีกำไร 351 ลบ. +133% YoY จากปริมาณขายน้ำที่เพิ่มขึ้นหลังศก.ฟื้นตัว, การปรับโครงสร้างราคาขายน้ำใหม่ ส่งผลให้มาร์จิ้นดีขึ้น และบริษัทมีน้ำสำรองไว้ขายเป็นจำนวนมาก-ไม่ขาดแคลน, แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังสดใสต่อเนื่อง จากสัญญาขายน้ำให้แก่ลูกค้าใหม่ในภาคอุตฯ, คาดจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.22 บ./หุ้น คิดเป็น Div. Yield 2.1%, เป้าพื้นฐาน 12.6 บ. / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการระบาด ชอบ – BCH, BDMS และอื่นๆ - AS, JMT / หุ้นรับอานิสงส์แนวโน้มส่งออกเติบโตดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง และเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ – KCE, HANA กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม – CBG, SAPPE, TU และกลุ่มโลจิสติกส์ JWD, NYT / หุ้นที่เบื้องต้นคาดงบ Q2 จะออกมาดี YoY & QoQ – BCH, BDMS, BEC, ICHI, KCE, RBF, SAPPE, SCGP, TPIPL / YoY – BGC, GLOBAL, HMPRO, OSP / หุ้นคาดจ่ายปันผลระหว่างกาล > 2% หาจังหวะสะสม – EASTW, LH, PROSPECT, SMPC, TVO / 6 หุ้นเด่นจาก IAA Survey – BDMS, BEM, CPALL, GPSC, KBANK, TU / กระแสส่งเสริมรถ EV และแบตเตอรี่ EV เป็น Sentiment บวกต่อ EA, NEX, GPSC, PTT, BANPU, BCPG, ROJNA รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ SAT, STANLY / ธุรกิจกัญชา – DOD, RBF, KWM, GUNKUL, RS, CBG, ICHI, SAPPE, KISS
• หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) AS, JMT
• หุ้นเด่น ก.ค. (Smart Tactics) BCH, BDMS, BEC, JWD, KCE, NYT, TVO
ข่าวเด่น