ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 22 ก.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังนักลงทุนคลายกังวลและเข้าลงทุนในตลาดน้ำมันดิบเพิ่มเติม
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 4% ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีการปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนคลายความกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้มีการเข้าลงทุนในตลาดน้ำมันดิบเพิ่มเติม เนื่องจากตลาดน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มตึงตัวจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นและการเพิ่มปริมาณการผลิตของโอเปกและประเทศพันธมิตรที่อยู่ในระดับจำกัด
+ ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวในระดับสูง สะท้อนจากปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงหลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง โดยสถาบันสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังในสัปดาห์ก่อนหน้าปรับลดลง 0.1 และ 1.3 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ เพิ่มการนำเข้าน้ำมันดิบมากขึ้น โดย EIA รายงานข้อมูลสำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ก.ค. 64 ปริมาณน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 439.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 21 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 70.30 +2.88
เบรนท์ 72.23 +2.88
ดูไบ 71.77 68.81 -2.96
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 21 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 80.27 -3.26
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 73.47 -2.71
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 73.95 -2.87
น้ำมันเตา (3.5% S) 63.29 -1.84
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ และเอเชียยังคงได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียหลายประเทศยังคงมาตรการจำกัดการเดินทาง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยเฉพาะจากจีนที่มีการปรับลดการส่งออกลง เนื่องจากโควต้าการส่งออกอยู่ในระดับจำกัด นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของแอฟริกาใต้ที่เพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น