ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 23 ก.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อ หลังเศรษฐกิจในหลายประเทศฟื้นตัวหนุนความต้องการใช้น้ำมัน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ หลังเศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลดลง โดยนักวิเคราห์คาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นด้วย
+ ถึงแม้ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเดือนละ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือนส.ค.จนถึงเดือนธ.ค.ปีนี้ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เห็นได้จากการลดลงของน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เมืองคุชชิ่งโอกลาโฮม่า รวมทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลคงคลังที่ปรับลดลง สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการน้ำมันในสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวสูงขึ้น
+ ทางด้านธนาคารบาร์เคลย์ ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้ สู่ระดับ 69 บาร์เรล โดยระบุว่าปัจจัยอุปสงค์และอุปทานสนับสนุนราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง สู่ระดับก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 22 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 71.61 +1.31
เบรนท์ 73.79 +1.56
ดูไบ 71.53 +2.72
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 22 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 83.46 +3.19
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 76.21 +2.74
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 76.50 +2.55
น้ำมันเตา (3.5% S) 65.62 +2.33
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ หลังตัวเลขน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกกดดันจากความต้องใช้เอเชียที่ยังหยุดชะงักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่เบาบางในเอเชีย จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม อุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากการปรับลดการส่งออกลงในจีน
ข่าวเด่น