ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวและปริมาณการซื้อขายไม่ค่อยหนาแน่น โดยที่ภาพรวมทองคำค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 1,795 – 1,810 เหรียญ ยังมีความไม่ชัดเจนในทิศทางของดอลลาร์ โดยภาพรวมอยู่ในเกณฑ์สูง และเมื่อแตะ 93.50 ก็มีการย่อตัวลงมา โดยส่วนของดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นเล็กน้อย และเช้านี้ทรงตัว ขณะที่เงินบาทอ่อนค่า และภาพรวมเศรษฐกิจค่อนข้างแย่ถึงแย่มากจากสภาวะ Lockdown และสภาวะที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ Covid-19 ได้ จึงเห็นเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอลง โดยเฉพาะเศรษฐกิจภายในประเทศและ SMEs ที่จะกระทบหนักมาก ด้านเงินบาทเองอ่อนค่าต่อเนื่อง โดย 10 วันก่อนอยู่บริเวณ 32.50 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุดอยู่บริเวณ 32.96 บาท/ดอลลาร์ จึงอาจเห็นบาทแตะ 33 บาท/ดอลลาร์ในอีก 2-3 วันนี้ จึงทำให้ภาพรวมของเงินบาทอยู่ในทิศทางขาขึ้นโดยตลอด โดยทำให้ทองไทยขยับขึ้นมาที่ 28,000 บาท/บาททองคำ และทองต่างประเทศเคลื่อนไหวในกรอบ ขณะที่กองทุน SPDR ขายทองคำออก 1.17 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,027.38 ตัน ในส่วน Volume ของ GOF จะมีปริมาณซื้อขายราว 50,000 คู่สัญญาโดยประมาณ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำค่อนข้างเคลื่อนไหว Sideways เป็นลักษณะ Sideway Down แต่จะเห็นว่ามีการทดสอบแนวรับ 1,795 เหรียญหลายครั้ง แต่ก็มีการดีดกลับขึ้นมา ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,815 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคายังคงเคลื่อนตัวในกรอบเช่นเดิม ทั้ง Gold Spot และ Gold Comex จะมีแนวต้าน 1,795 เหรียญ และแนวต้าน 1,815 เหรียญนั่นเอง สำหรับราคาทองคำไทยคาดจะมีโอกาสขึ้นต่อ จากเงินบาทเป็นสำคัญ
* อย่างไรก็ดี Gold Comex ซีรีย์ Q จะหมดอายุลงในวันที่ 29 ก.ค. 64 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของ Gold Comex ซีรีย์ Z แทน
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2– 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำเก็งกำไร Sideways ระยะสั้นๆในกรอบ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะลดสถานะเมื่อราคารีบาวน์ พยายามปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุล
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้เล่นสั้นๆ ตามการรีบาวน์ รอซื้อปิดตามแนวรับ มี Stop Loss ทุกครั้งหากสูงกว่า 1,815 เหรียญ
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ข่าวเด่น