ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 2 ส.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น หนุนความต้องการใช้น้ำมัน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ปรับตัวสูงขึ้น จะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน เนื่องจากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในหลายประเทศก็ตาม
+ บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ค. 64 ปรับลดลง 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 385 แท่น
+/- สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกเดือน ก.ค. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 610,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 26.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับการผลิตที่สูงสุดในรอบ 15 เดือน อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปกยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต โดยอัตราการปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง (compliance rate) เดือน ก.ค. 64 อยู่ที่ระดับร้อยละ 115 ซึ่งนับว่ากลุ่มโอเปกยังคงผลิตน้ำมันดิบน้อยกว่าข้อตกลงอยู่
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 30 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 73.95 +0.33
เบรนท์ 76.33 +0.28
ดูไบ 74.02 +0.16
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 30 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 87.17 +0.81
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 78.89 +0.50
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 79.28 +0.48
น้ำมันเตา (3.5% S) 67.70 +0.44
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป อย่างไรก็ตาม ตลาดยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับลดลงร้อยละ 4.3 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ หลังสามารถส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังภูมิภาคอื่นได้เพิ่มมากขึ้น
ข่าวเด่น