ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 4 ส.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา ยังคงกดดันความต้องการใช้น้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตายังคงรุนแรงในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และจีน โดยล่าสุด จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สายพันธุ์เดลตากระจายไปกว่า 20 เมือง มากกว่า 12 มณฑลทั่วประเทศ ส่งผลให้ต้องกลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของประเทศ
- นายอิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน เปิดเผยหลังชนะการรับรองให้เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการว่า รัฐบาลของเขาจะดำเนินการยกเลิกการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวอิหร่านให้ดีขึ้น โดยหากการยกเลิกคว่ำบาตรอิหร่านสำเร็จ จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบจากอิหร่านกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง
- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ค. 64 ปรับตัวลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 434.7 ล้านบาร์เรล ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงราว 3.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 3 ส.ค.64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 70.56 -0.70
เบรนท์ 72.41 -0.48
ดูไบ 72.05 -1.36
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 3 ส.ค.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 84.44 -1.36
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 77.03 -1.46
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 77.50 -1.17
น้ำมันเตา (3.5% S) 6766.29 -1.32
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียได้รับแรงกดดันจากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้หลายประเทศ เช่น จีน และ ญี่ปุ่น จำเป็นต้องกลับมาบังคับใช้มาตรการจำกัดการเดินทางอีกครั้งหนึ่ง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของอินเดียที่ปรับตัวลดลงจากช่วงก่อนหน้า ตามสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยังคงได้ถูกจำกัดตามมาตรการปิดเมือง
ข่าวเด่น