สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +18.47 จุด คลายกังวลระบาด ผู้ติดเชื้อฯ ลด 2 วันซ้อน
SET เปิดตลาดภาคเช้ากระโดดขึ้นกว่า 6 จุด และไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องมาปิดตลาดที่ 1540 ขานรับผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง 2 วันซ้อนมาที่ 1.9 หมื่นคน หลังจากที่ขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.1 หมื่นคนในช่วงก่อนหน้านี้ ต่างชาติขายสุทธิ 436 ลบ. 4 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures สูงถึง 30,978 สัญญา (มองเป็นการปิดสถานะ Short ก่อนหน้านี้)
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ออกข้าง น้ำมันร่วงต่อ, บาทอ่อนค่าจำกัดการฟื้นตัว
หุ้นโลกเมื่อวาน (9 ส.ค.) ปิด +/- เล็กน้อยกระจัดกระจาย แม้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันที่ร่วงมากกว่า 2% วิตกการระบาดสายพันธุ์เดลตาจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน แต่มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ช่วยหนุน หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ใกล้ผ่านแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้าน$ มอง SET แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง หลังพุ่งขึ้นแรงเมื่อวาน ขานรับผู้ติดเชื้อใหม่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดียังต้องติดตามสถานการณ์ระบาดใกล้ชิด เพราะยังมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่การปรับตัวลงต่อเนื่องของราคาน้ำมันและแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาทยังเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของ SET ผสานกับหุ้นไทยมีโอกาสถูก MSCI ปรับลดน้ำหนักลง (รู้ผล 11 ส.ค.) ยังกดดันกระแสเงินทุนไหลเข้าอยู่ วันนี้แนะนำติดตามการประชุมครม. และราคาหุ้น INTUCH อาจผันผวนช่วงท้ายตลาดหลังถูก MSCI และ FTSE ปรับน้ำหนักการลงทุนลงมีผลราคาปิดวันนี้ คิดเป็นเงินไหลออกรวมราว 120 ล้านดอลลาร์ฯ แนวรับ 1535, 1530 แนวต้าน 1550 อนึ่ง JTS ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 30 ส.ค. / FVC, SABUY, SABUY-W1 จะติด Cash Balance วันนี้เป็นวันสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : พอร์ตลงทุน แนะรอทยอยตั้งรับที่ SET 1500-1510
SET เมื่อวานดีดกลับแรงขึ้นมาปิด 1540 เป็นสัญญาณเชิงบวก หากไต่ขึ้นต่อและปิดเหนือ 1550 สำเร็จ ภาพแนวโน้มจะดีขึ้น มิฉะนั้นภาพแนวโน้มยังคงเดิม คือ แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ / การเทรดดิ้งสั้นต้องรับความเสี่ยงได้สูง แนะลงซื้อ-ขึ้นขาย และควร Stop Loss เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1520 / พอร์ตลงทุน แนะรอตั้งรับที่ SET 1500-1510
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick JMT – คาดกำไร 2Q21F อยู่ที่ 297 ลบ. +31% YoY และ +5% QoQ จากรายได้การติดตามหนี้ที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี, คาดจ่ายปันผลครึ่งปีแรก 0.2-0.3 บ./หุ้น, มองแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากการเริ่มรับรู้รายได้ที่มากขึ้นของหนี้ที่ซื้อมาปลายปีก่อน นอกจากนี้มีแนวโน้มสูงที่การซื้อหนี้ในปีนี้จะดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 4 พันลบ. และดีกว่าเป้าหมายบริษัทที่ตั้งไว้ที่ 6 พันลบ. ซึ่งจะสนับสนุนกำไรจะเติบโตได้ต่อเนื่องในปีหน้า +29% จากปีนี้ที่คาดโต +26%, เป้าพื้นฐาน 51 บ. / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการระบาด ชอบ – BCH, BDMS และอื่นๆ - AS, JMT / หุ้นรับอานิสงส์ส่งออกเติบโตดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลังและเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มอิเล็กฯ – KCE, HANA กลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม – CBG, SAPPE, TU, กลุ่มโลจิสติกส์ JWD, WICE, NYT อื่นๆ SMPC / หุ้นที่คาดงบ Q2 จะออกมาดี YoY & QoQ – BAM, BCH, BDMS, BEC, ICHI, JMT, KCE, LH, RBF, SAPPE, SCGP, SPALI, TPIPL, TU / YoY – BGC, BJC, CK, EASTW, JWD, MAKRO, NYT, ORI, OSP / หุ้น WFH รับอานิสงส์บวกจากการล็อกดาวน์ยืดเยื้อ – AS, ITEL / หุ้นคาดจ่ายปันผลระหว่างกาล > 2% แนะสะสม – EASTW, LH, PROSPECT, SMPC, SPALI, TVO / กระแสส่งเสริมรถ EV และแบตเตอรี่ EV เป็น Sentiment บวกต่อ EA, NEX, GPSC, PTT, BANPU, BCPG, ROJNA รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ SAT, STANLY / ธุรกิจกัญชา – DOD, RBF, KWM, GUNKUL, RS, CBG, ICHI, SAPPE, KISS
•หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) MAKRO, SPALI
•หุ้นเด่น ส.ค. (Smart Tactics) BEC, BJC, HANA, JMT, MAKRO, RJH, SPALI
ข่าวเด่น