ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวานนี้มีการทำสูงสุดบริเวณ 1,789 เหรียญ อันเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ Empire State Manufacturing Index ที่ออกมาแย่ลงกว่าที่คาด สำหรับตัวเลขสำคัญที่ตลาดให้ความสำคัญคืนนี้ ได้แก่ Retail Sales และ Core Retail Sales โดยหากตัวเลขนี้ออกมาแย่อย่างมากมีโอกาสเห็นทองคำขึ้นต่อและมีโอกาสกลับขึ้นทดสอบ 1,800 เหรียญได้ แต่หากตัวเลขสวนทางโดยออกมาดีกว่าที่คาดอาจจะกดดันราคาทองคำได้ ขณะที่คืนนี้ก็จะมีถ้อยแถลงประธานเฟดที่ต้องติดตามเป็นสำคัญเช่นกัน ดังนั้น ก่อนจะเห็นการประชุมประจำปีของธนาคารกลาง แนะนำให้จับตาอย่างใกล้ชิด และคาดว่าอาจเห็นราคา Break เทรนขาลง เนื่องจากการทำ Tapering ของเฟดดูจะส่งผลกดดันทองคำได้ ขณะที่วิกฤตในอัฟกานิสถานดูจะไม่ได้มีผลต่อราคาทองคำมากเนื่องจาก ณ ขณะนี้เป็นเพียงวิกฤตในประเทศ แต่หากขยายตัวลุกลามไปยังตะวันออกกลางหรือประเทศอื่นๆ จึงจะกลายเป็นผลที่กระทบต่อราคาทองคำ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways Up โดยยังมีกรอบแนวรับ 1,770 เหรียญ และแนวต้านแรก 1,790 เหรียญ แนะนำให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจใกล้ชิด โดยแนะนำใช้กลยุทธ์ Wait&See รอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้ ประกอบกับแนวทางการดำเนินนโยบายของเฟดว่าจะดำเนินการอย่างไร จะมีการยืดระยะเวลา Tapering QE หรือไม่ ในส่วนของ Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,768 – 1,790 เหรีญญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบการลงทุน 1,770-1,800 เหรียญ ในส่วนของทองคำไทยคาดอาจเห็นการปรับขึ้น 100 บาท/บาททองคำ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ทำการ Wait&See รอความชัดเจนของทิศทาง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะเล่นสั้น ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ หาจังหวะปิดสถานะตามการปรับขึ้น ควรบริหารพอร์ตก่อนตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำบริหารพอร์ตสมดุลกับทิศทาง
Gold Futures 10Q21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,500 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ข่าวเด่น