สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -7.59 จุด FED ส่งสัญญาณจะเริ่มลด QE ปีนี้
SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1543-53 มีแรงขายทำกำไรหลังขึ้น 3 วันติด และรายงานประชุม FED ครั้งก่อนส่งสัญญาณจะเริ่มลด QE ในปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดจะเริ่มลดจริงในปีหน้า รวมทั้งราคาน้ำมันร่วง 5 วันติด ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 516 ลบ. ยุติขาย 2 วัน แต่ขณะเดียวกันก็พลิก Short S50 Futures 5,440 สัญญา ยุติ Long 2 วัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : รีบาวด์สลับย่อตัวในกรอบแคบ ดอลล์แข็ง + น้ำมันร่วงยังถ่วง
หุ้นโลกเมื่อวาน (19 ส.ค.) ซื้อขายผันผวน หลัง FED ส่งสัญญาณจะเริ่มลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์ในปีนี้ (QE Tapering) จากระดับปัจจุบันที่ซื้อสินทรัพย์เดือนละ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยหุ้นยุโรปร่วงเกือบ 2% ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ พลิกปิดผสมผสาน (DJ ลบเล็กน้อย แต่ S&P500 และ NASDAQ ปิดบวกเล็กน้อย) โดยปรับลงไปก่อนในช่วงแรก แต่ฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยี ขานรับ Nvidia และ Cisco Systems รายงานผลประกอบการดีกว่าคาด ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงต่อ 6 วันติด -2.7% ปิดที่ 63.69 $/bbl ต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ค. จากเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าและกังวลการระบาดสายพันธุ์เดลตาจะกระทบความต้องการใช้น้ำมัน มอง SET มีโอกาสรีบาวด์สลับการย่อตัวในกรอบจำกัด ลุ้นสถานการณ์ระบาดในปท.เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่คงไม่ไปไหนได้ไกล คาดจะเผชิญแรงขายทำกำไร/ลดความเสี่ยง จาก 1) ความกังวลนโยบายการเงินสหรัฐฯ ที่ปรับเปลี่ยนในทางที่เข้มงวดขึ้นเร็วกว่าคาด หนุนดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ ขึ้นแตะระดับ 93.56 จุด สูงสุดใหม่ในรอบ 9 เดือน และ 2) ปัญหาการเมืองในปท. แนวรับ 1540, 1535 แนวต้าน 1550, 1555 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้ / STOWER, STOWER-W3 ติด Cash Balance 20 ส.ค. - 9 ก.ย. / SICT ไม่ติด Cash Balance แล้ว ซื้อขายตามเกณฑ์ปกติวันนี้เป็นวันแรก
กลยุทธ์การลงทุน : ลงซื้อ-ขึ้นขาย, พอร์ตลงทุน หาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว
การเทรดดิ้ง-เก็งกำไรระยะสั้น แนะนำใช้กรอบ SET ที่ 1530-80 ลงซื้อ-ขึ้นขาย และปรับ Trailing Stop ขึ้นจาก 1515-20 เป็น 1530 / พอร์ตลงทุน ช่วง 1-2 เดือนนี้เน้นหาจังหวะตั้งรับ-ซื้อสะสมเพื่อหวังผลระยะถัดไป
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick TU – รายงานกำไร 2Q21 ที่ 2.34 พันลบ. +30% QoQ และ +37% YoY ดีกว่าเราและตลาดคาด 12% และ 29% ตามลำดับ หลัก ๆ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง, เรายังมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังและได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า, จะขึ้น XD @ 0.45 บ./หุ้น 23 ส.ค.นี้ คิดเป็น Div. Yield 2.1%, เป้าพื้นฐาน 24 บ. / MSCI ทบทวนดัชนี Global Standard ไม่มีหุ้นไทยเข้า แต่ BBL-F ออก ขณะที่ Small Cap ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออก / หุ้นที่ตลาดมีโอกาสปรับมุมมองเชิงบวกขึ้นหลังงบ Q2 ดีกว่าคาด – AH, BCH, IVL, JWD, PTTGC, SAT, SFT, SMPC, TPIPL, VIBHA, WICE / หุ้นอิงดีมานด์ในตปท.และได้ประโยชน์บาทอ่อนค่า ETRON - KCE, HANA / FOOD – CBG, GFPT, SAPPE, TU / TRANS – PSL, TTA, JWD, WICE / หุ้นคาดรับผลเชิงบวกจากการระบาด-ล็อกดาวน์ยืดเยื้อ HELTH – BCH, BDMS / ICT & IT – ADVANC, DTAC, AS, COM7, SYNEX / อื่นๆ - KEX / หุ้นหลบภัยพื้นฐานดีมีรายได้มั่นคง – ADVANC, EASTW, EGCO / หุ้นที่มี Div. Yield งวดนี้ > 2% ชอบ LH (XD 24 ส.ค. @ Bt0.25), PROSPECT (XD 23 ส.ค. @ Bt0.235), SMPC (XD 23 ส.ค. @ Bt0.35), SPALI (XD 24 ส.ค. @ Bt0.5), STA (XD 23 ส.ค. @ Bt1.25), STGT (XD 23 ส.ค. @ Bt1.25), TU (XD 23 ส.ค. @ Bt0.45), TVO (XD 27 ส.ค. @ Bt1.3) / ธุรกิจกัญชง – DOD, RBF, KWM, GUNKUL, RS, CBG, ICHI, SAPPE, KISS
•หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) PTTGC, TTA
•หุ้นเด่น ส.ค. (Smart Tactics) BEC, BJC, HANA, JMT, MAKRO, RJH, SPALI
ข่าวเด่น