ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 13 ก.ย. ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุน จากความกังวลอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
+ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุน หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบราว 75% ของกำลังการผลิตบริเวณอ่าวเม็กซิโก สหรัฐฯ หรือราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยังหยุดดำเนินการ นับตั้งแต่เดือน ส.ค. 64 เนื่องจากการพัดถล่มของพายุเฮอริเคนไอดา และยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ซึ่งปรับลดลง 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
+ ตลาดคาดหวังผลการเจรจาด้านการค้าครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจีน ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการลดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ และช่วยหนุนการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมัน
- รัฐบาลจีนวางแผนที่จะปล่อยน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ ผ่านการประมูลให้กับโรงกลั่นภายในประเทศ เพื่อรักษาสมดุลตลาดน้ำมันดิบภายในประเทศ โดย Energy Aspect คาดว่าจีนจะประกาศขายราว 10-15 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 10 ก.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 69.72 +1.58
เบรนท์ 72.92 +1.47
ดูไบ 71.00 +0.17
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 10 ก.ย.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 81.95 +0.04
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 71.17 +0.52
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 76.99 +0.25
น้ำมันเตา (3.5% S) 72.75 -0.32
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลัง สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.53% แตะระดับ 13.25 ล้านบาร์เรล ณ สัปดาห์สิ้นสุด 8 ก.ย. 64 หลังความต้องการใช้ในภูมิภาคยังถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลัง สิงคโปร์ ปรับลด 13.27% แตะระดับ 9.92 ล้านบาร์เรล ณ สัปดาห์สิ้นสุด 8 ก.ย. 64 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือน
ข่าวเด่น