ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 20 ก.ย. ราคาน้ำมันดิบลดลง หลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น
-/+ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง เนื่องจากการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ เริ่มทยอยกลับมา หลังก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน Ida และ Nicholas โดยล่าสุดปริมาณการผลิตที่หายไปปรับลดลงจากราว 30% ในวันก่อนหน้ามาอยู่ที่ประมาณ 23% ของกำลังการผลิตทั้งหมดในอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนทำให้การผลิตหายไปกว่าราว 26 ล้านบาร์เรลและช่วยสนับสนุนให้ราคายืนในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังบริษัทน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มการขุดเจาะขึ้น ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 411 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 63
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์และส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันต่อเนื่อง หลังตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้และเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 17 ก.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 71.97 -0.64
เบรนท์ 75.34 -0.33
ดูไบ 73.16 -0.06
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 17 ก.ย.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 84.41 -0.31
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 80.47 +0.65
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 80.25 +0.50
น้ำมันเตา (3.5% S) 75.11 -0.20
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ของจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในช่วงวันหยุดชาติจีนในช่วงต้นเดือน ต.ค.
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่ลดลง โดยเฉพาะจากจีนที่มีแนวโน้มปรับลดการส่งออกลง นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
ข่าวเด่น