ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 24 ก.ย. ราคาน้ำมันดิบพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือน จากความกังวลต่ออุปทานที่ยังคงต่ำ ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบลดลง
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. 64 ปรับตัวลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 414 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ต.ค. 61 ในขณะที่กำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม 969,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 5.4% ทำให้กำลังการผลิตโดนรวมแตะระดับ 87.5%
+ ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเอเชีย ที่เริ่มฟื้นตัวหลังเกิดโรคระบาด ในขณะที่ก๊าซคงคลังอยู่ในระดับต่ำและอุปทานก๊าซที่ตึงตัวกว่าปกติจากรัสเซีย
+ สมาชิกบางส่วนของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) ยังคงประสบปัญหาในการเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากความล่าช้าในการลงทุนและการดำเนินงานซ่อมบำรุงในช่วงที่มีการระบาดหนักของโควิด-19 นอกจากนี้รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิรักยังกล่าวอีกว่า กลุ่มโอเปกและพันธมิตร พยายามที่จะคงราคาน้ำมันดิบไว้ที่ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว โดยกลุ่มจะจัดประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 4 ต.ค.64
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 23 ก.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 73.30 +1.07
เบรนท์ 77.25 +1.06
ดูไบ 74.20 +0.79
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 23 ก.ย.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 86.02 +0.81
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 82.35 +1.28
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 81.67 +1.14
น้ำมันเตา (3.5% S) 76.11 +1.45
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินจากทางตะวันออกกลางและแอฟริกาเริ่มฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตามราคายังถูกกดดันจากน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น 3.47 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการน้ำมันดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้นจากสิงคโปร์และออสเตรเลียที่จะเริ่มเปิดประเทศ เมื่อประชากรได้รับวัคซีนกว่า 70% ในขณะที่อุปทานในภูมิภาคยังค่อนข้างจำกัด
ข่าวเด่น