สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +9.31 จุด ความหวังยาต้านโควิท, ภาวะระบาดคลี่คลาย
SET เปิดกระโดดขึ้นกว่า 6 จุด และแกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1610-19 ขานรับสถานการณ์ระบาดในปท.ดีขึ้นต่อเนื่อง และความหวังยาต้าน COVID-19 ตัวใหม่ของบ. Merck ที่มีประสิทธิภาพการรักษาสูง เตรียมขอ FDA สหรัฐฯ ใช้กรณีฉุกเฉิน ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.03 พันลบ.แต่ยัง Long S50 Futures 9,293 สัญญา 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนลง Sentiment ตปท.เป็นลบ ห่วงเงินเฟ้อพุ่งฉุดรั้งศก.
หุ้นโลกเมื่อวาน (4 ต.ค.) ปรับลง นลท.เทขายหุ้นเติบโตอย่างหุ้นเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่อ Bond Yield ที่ปรับขึ้น และกังวลต่อแนวโน้มการเร่งตัวของเงินเฟ้อจะกระทบการเติบโตทางศก. หลังราคาน้ำมัน-สินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบ WTI +1.74$ หรือ +2.3% สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 2014 หลัง OPEC+ ยังเข้มงวดต่อการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันเพียง 4 แสนบาร์เรล/วัน มอง SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลง แม้ราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี แต่เริ่มกังวลภาครัฐเข้าแทรกแซงราคาน้ำมัน สร้างแรงกดดันต่อกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้อง (PTG, OR, PTT) นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นยังสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อด้วย อาจกระทบต่อการฟื้นตัวศก. ขณะที่ตลาดจับตาปัญหาหนี้ภาคอสังหาฯ ของจีน หลัง Fantasia Holdings Group ผิดนัดชำระหนี้ 205.7 ล้านดอลลาร์ฯ เมื่อวานนี้ และถูกสั่งระงับการซื้อขายเหมือน Evergrande แนวรับ 1605, 1600 แนวต้าน 1620-25
กลยุทธ์การลงทุน : ลงซื้อ-ขึ้นขาย, พอร์ตลงทุน หาจังหวะอ่อนตัวซื้อคืน
การเทรดดิ้งสั้น เน้นหาจังหวะตั้งรับ ลงซื้อ-ขึ้นขาย เล็งเป้า SET ที่ 1640 และ 1660 ตามลำดับ และใช้ Trailing Stop หาก SET ปิดต่ำกว่า 1600 / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะทยอยซื้อคืนช่วงอ่อนตัว
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick CPW – เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสตอบรับที่ดีของการเปิดจอง iPhone 13 แต่ราคายังปรับตัวขึ้นช้าเมื่อเทียบกับ COM7, เรามองกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกจากการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ในช่วงปลายปีนี้ และการเริ่มรับรู้รายได้และกำไรจากการซื้อกิจการ IBIZ Plus ตั้งแต่ 4Q21 เป็นต้นไป, คาดกำไรปี 2022-24F จะเติบโตเฉลี่ย 24% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 4.9 บ. / ผลสำรวจ IAA เฉลี่ยให้เป้า SET ปีนี้ที่ 1648 ส่วนปีหน้าอยู่ที่ 1754 ขณะที่ 4 หุ้นเด่น คือ AOT, BEM, CPALL, KBANK / ราคาถ่านหินล่วงหน้า Newcastle ขึ้น 9 วันติด สูงสุดใหม่รอบมากกว่า 20 ปี แม้ดีต่อ BANPU, LANNA, TCC แต่ราคาขึ้นมากแล้ว การเก็งกำไรต้องทำอย่างระมัดระวัง ขณะที่มองเป็นลบต่อหุ้นโรงไฟฟ้า-โรงปูน-กระดาษ (SCCC, TPIPL, SCGP, TPIPP) / แนวทางปรับปรุงดัชนีของตลท. คาดกลุ่ม BANK ได้ประโยชน์สุดจากสัดส่วน Free Float ที่สูง ส่วน DELTA มีโอกาสหลุดจาก SET50 / ครม.เห็นชอบ 4 มาตรการดึงต่างชาติพำนักและลงทุนในปท.มากขึ้น มองดีต่อนิคมฯ ชอบ WHA, อสังหาฯ AP, LH และรพ. BH, BDMS / หุ้น Re-opening และได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นศก. แถว 1 (หุ้นหลักของตลาด) CPALL, CPN, CRC แถว 2 (หุ้นที่ราคายังขึ้นน้อย) BEM, DMT, MAJOR, PLANB, STEC, VGI, WHA, WORK / หุ้นเบื้องต้นคาดกำไร Q3 ดี YoY & QoQ - PTT, CRC, MAJOR, BCH, CHG / YoY – BANK & FIN – BBL, KBANK, SCB, KTC, AMANAH / ENERG & PETRO – BCP, EASTW, SPRC, PTTGC, IVL / COMM – COM7, DOHOME, GLOBAL / ETRON - HANA, KCE / TRANS - JWD, KEX, WICE / OTHERS - BEC, HTECH, ROJNA, SPALI, TWPC / หุ้นรับประโยชน์บาทอ่อน – เด่น HANA, KCE, TU, THCOM
•หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) SCB, STEC
•หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) BBL, JWD, MTC, SFLEX, SMPC, SPALI, SPRC, TWPC
ข่าวเด่น