สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -4.76 จุด ขายทำกำไรภาคบ่าย กังวลเงินเฟ้อพุ่ง
SET ผันผวนในกรอบ 1617-31 วอลุ่มเทรดหนาแน่น 9.76 หมื่นลบ. โดยภาคเช้าปรับขึ้นตามทิศทางหุ้นโลก ขานรับ ISM บริการสหรัฐฯ ดีเกินคาด และราคาน้ำมันพุ่งสูงสุดใหม่รอบ 7 ปี แต่ภาคบ่ายถูกแรงขายทำกำไร วิตกแนวโน้มเงินเฟ้อพุ่ง ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.26 พันลบ. และพลิก Short S50 Futures 10,618 สัญญา ยุติ Short 3 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งออกข้าง สัญญาณบวกเพดานหนี้ US แต่น้ำมันเริ่มลง
หุ้นโลกเมื่อวาน (6 ต.ค.) ซื้อขายผันผวน โดยหุ้นยุโรปร่วงมากกว่า 1% ท่ามกลางความกังวลเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงไปมากกว่า 1% เช่นกัน ก่อนที่จะพลิกกลับมาปิดบวกช่วงท้าย หลังมีสัญญาณบวกการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยนาย Mitch McConnell ผู้นำวุฒิสภาพรรครีพับลิกันเสนอประนีประนอมยอมขยายเพดานหนี้ขึ้นในจำนวนที่แน่นอนตามกระบวนการปกติจนถึงเดือน ธ.ค. ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1.50$ หลังจากที่ขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่รอบเกือบ 7 ปี ถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นผิดคาด ขณะที่ราคาถ่านหินร่วงกว่า 10% มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง แม้การเจรจาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ มีสัญญาณบวก แต่คาดตลาดไม่ไปไหน เพราะหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคน่าจะเผชิญแรงขายตามราคาน้ำมัน นอกจากนี้แนวโน้ม Bond Yield ที่เป็นขาขึ้นจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และวิกฤติพลังงานขาดแคลนยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แนวรับ 1610 แนวต้าน 1625, 1630-32
กลยุทธ์การลงทุน : ลงซื้อ-ขึ้นขาย, พอร์ตลงทุน หาจังหวะอ่อนตัวซื้อคืน
การเทรดดิ้งสั้น เน้นหาจังหวะตั้งรับ ลงซื้อ-ขึ้นขาย เล็งเป้า SET ที่ 1640 และ 1660 ตามลำดับ และใช้ Trailing Stop หาก SET ปิดต่ำกว่า 1600 / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะทยอยซื้อคืนช่วงอ่อนตัว
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick ROJNA – ครม.เห็นชอบจัดตั้งเขตส่งเสริมศก.พิเศษเพิ่มเติม 6 แห่ง โดยเป็นของนิคมฯ ของ ROJNA 2 แห่ง คือ โรจนะแหลมฉบังและโรจนะหนองใหญ่, แนวโน้มการขายที่ดินนิคมฯ เริ่มฟื้นตัว มีลูกค้าต่างชาติสัญชาติจีนเริ่มเข้ามาเซ็นสัญญา คาดมีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากการทยอยเปิดปท., ขณะที่นิคมฯ ทั้งหมดของ ROJNA ยังปลอดภัยจากน้ำท่วม, เป้าพื้นฐาน 7.7 บ. / ผลสำรวจ IAA เฉลี่ยให้เป้า SET ปีนี้ที่ 1648 ส่วนปีหน้าอยู่ที่ 1754 ขณะที่ 4 หุ้นเด่น คือ AOT, BEM, CPALL, KBANK / ราคาถ่านหินล่วงหน้า Newcastle ร่วงครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ -10% คาดจะกดดัน BANPU, LANNA, TCC หลังจากราคาขึ้นมากก่อนหน้านี้ ส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบหน้านี้อาจฟื้นตัวขึ้น อาทิ หุ้นโรงไฟฟ้า-โรงปูน-กระดาษ (SCCC, TPIPL, SCGP, TPIPP) / แนวทางปรับปรุงดัชนีของตลท. คาดกลุ่ม BANK ได้ประโยชน์สุดจากสัดส่วน Free Float ที่สูง ส่วน DELTA มีโอกาสหลุดจาก SET50 / ครม.เห็นชอบ 4 มาตรการดึงต่างชาติพำนักและลงทุนในปท.มากขึ้น มองดีต่อนิคมฯ ชอบ WHA, อสังหาฯ AP, LH และรพ. BH, BDMS / หุ้น Re-opening และได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นศก. แถว 1 (หุ้นหลักของตลาด) CPALL, CPN, CRC แถว 2 (หุ้นที่ราคายังขึ้นน้อย) BEM, DMT, MAJOR, PLANB, STEC, VGI, WHA, WORK / หุ้นเบื้องต้นคาดกำไร Q3 ดี YoY & QoQ - PTT, CRC, MAJOR, BCH, CHG / YoY – BANK & FIN – BBL, KBANK, SCB, KTC, AMANAH / ENERG & PETRO – BCP, EASTW, SPRC, PTTGC, IVL / COMM – COM7, DOHOME, GLOBAL / ETRON - HANA, KCE / TRANS - JWD, KEX, WICE / OTHERS - BEC, HTECH, ROJNA, SPALI, TWPC / หุ้นรับประโยชน์บาทอ่อน – เด่น HANA, KCE, TU, THCOM
• หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) SCB, STEC
• หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) BBL, JWD, MTC, SFLEX, SMPC, SPALI, SPRC, TWPC
ข่าวเด่น