ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 3 พ.ย. ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังตลาดจับตาดูการประชุมโอเปกพลัส ท่ามกลางน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่อาจปรับตัวสูงขึ้น
+/- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวทรงตัว หลังตลาดยังคงรอจับตาดูการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสที่ 4 พ.ย. 64 นี้ ที่ทางกลุ่มมีแนวโน้มคงมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ธ.ค. เพียง 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามข้อตกลงเดิม แม้ว่าหลายประเทศต่างกดดันให้ทางกลุ่มเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอความร้อนแรงของราคาน้ำมันดิบก็ตาม
- ตลาดยังจับตาตัวเลขจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ในคืนนี้ หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 29 ต.ค. 64 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 2.2 ล้านบาร์เรล จากระดับ 430.8 ล้านบาร์เรล
- นาย Murray Auchincloss, CFO บริษัท บีพี, เผยว่าจากอุปทานน้ำมันที่ตึงตัวรวมถึงราคาถ่านหินและแก๊สธรรมชาติที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้บริษัท บีพี ตัดสินใจเพิ่มเงินลงทุนการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน/เชลล์ออยล์ และก๊าซธรรมชาติ ในปี 2565 กว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ระดับ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบ 82.13 -0.56
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 2 พ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 83.91 -0.14
เบรนท์ 84.72 +0.01
ดูไบ 83.42 +1.29
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 2 พ.ย.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 104.72 +1.79
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 94.02 +0.43
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 94.98 +0.61
น้ำมันเตา (3.5% S) 74.16 +0.38
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์การใช้น้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในภูมิภาค ท่ามกลางปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 0.9 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันดีเซลสูงขึ้น ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามมาตรการปิดเมืองที่คลี่คลาย
ข่าวเด่น