ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 11 พ.ย. ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังหาวิธีลดราคาพลังงาน ท่ามกลางสต็อกน้ำมันดิบที่สูงขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ กล่าวว่ารัฐบาลอาจมีการดำเนินมาตรการในสัปดาห์นี้เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน โดยมีการคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินในประเทศ หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสเมินเฉยข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เพิ่มการผลิตน้ำมัน
+/- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ย. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่ม 2.1 ล้านบาร์เรล
- อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้น หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่ง 6.2% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา แม้ว่าเฟดยืนกรานว่าแรงกดดันเงินเฟ้อนี้จะเป็นเพียงแค่ชั่วคราวก็ตาม
ราคาน้ำมันดิบ 82.13 -0.56
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 10 พ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 81.34 -2.81
เบรนท์ 82.64 -2.14
ดูไบ 81.14 +1.78
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 10 พ.ย.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 100.15 +0.15
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 95.41 +1.57
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 97.31 +1.78
น้ำมันเตา (3.5% S) 73.36 +0.42
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี ตลาดรับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินในอินเดียที่สูงขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ท่ามกลางอุปทานที่มีอยู่อย่างจำกัด หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนมีแนวโน้มลดลง
ข่าวเด่น