ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 15 พ.ย. ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าสู่ระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน
- ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังนักลงทุนมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดอาจปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่ากำหนดจากปัจจัยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสุงสุดมากกว่า 16 เดือน จากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้การลงทุนในสัญญาถือครองน้ำมันดิบมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่น
- ตลาดถูกกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในยุโรปที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในยุโรป วันที่ 11 พ.ย.64 ปรับเพิ่ม 3.4 แสนราย หรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในยุโรปคิดเป็นมากกว่า 60% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลก
+ ความต้องการใช้น้ำมันได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง หลังประธานาธิบดีเบราลุสพิจารณาที่จะตัดเส้นทางลำเลียงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียที่ทอดผ่านเบลารุสไปยังยุโรป ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรต่อเบราลุส ส่งผลให้อุปทานก๊าซธรรมชาติในยุโรปมีแนวโน้มตึงตัวต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดิบ 82.13 -0.56
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 12 พ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 80.79 -0.80
เบรนท์ 82.17 -0.70
ดูไบ 81.75 -0.20
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 12 พ.ย.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 96.51 -1.45
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 91.08 -0.80
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 93.07 -0.93
น้ำมันเตา (3.5% S) 71.02 -0.63
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันเบนซินมากขึ้นหลังรัฐบาลจีนประกาศโควต้าสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำหรับโรงกลั่นเพิ่ม ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังคงถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานจากโรงกลั่นเอเชียปรับเพิ่มขึ้นจากอัตราการดำเนินโรงกลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์อินเดียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
ข่าวเด่น