หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 17 พฤศจิกายน 2564 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังอุปทานน้ำมันดิบยังคงตึงตัวจากมติการคงการเพิ่มอัตราการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันยังคงสูงขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย หลังมีมาตรการเปิดเมืองและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาอีกครั้ง เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย
สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 12 พ.ย. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่การผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน/เชลล์ออยล์ บริเวณ the Permian Basin คาดว่าจะมากกว่า 4.953 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค 64 ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ 4.913 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ตลาดกังวลอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันในยุโรป หลังมีการเริ่มใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในยุโรปยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในยุโรปคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 60 ของจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการส่งออกของประเทศจีนและอินเดีย ท่ามกลางอุปสงค์น้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานยังคงจำกัด ขณะที่อุปสงค์ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องตามการผ่อนคลายมาตรการเปิดเมืองของหลายประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 80.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 82.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเด่น