สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -5.96 จุด ขายแบงก์กดดันดัชนี, วอลุ่มแตะ 1 แสนลบ.
SET เปิดสูง-ปิดต่ำ ผันผวนในกรอบ 1641-56 วอลุ่มเทรดทะลุ 1 แสนลบ. ครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ ถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลัง SET ขึ้น 6 วันติด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์ร่วงนำตลาดปรับลง แต่มีแรงซื้อหุ้นสื่อสาร เก็งข่าวดีลการควบรวมกิจการ ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 3.25 พันลบ. และพลิก Short S50 Futures 7,649 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ จับตาสถานการณ์ระบาดของหลายปท.ในยุโรป
หุ้นโลกวันศุกร์ (19 พ.ย.) ถูกขายทำกำไร กังวลสถานการณ์ระบาดของหลายปท.ในยุโรปช่วงฤดูหนาวที่มีผู้ติดเชื้อพุ่งแตะสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ เช่น ออสเตรีย กลับมาล็อกดาวน์ทั่วปท. ขณะที่เยอรมันเริ่มจำกัดการทำกิจกรรมสำหรับผู้ไม่ได้ฉีดวัคซีน มีแค่หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ เท่านั้นที่ปิดบวกสวนตลาดโดยรวมได้ หลังผลกำไรผู้ผลิตชิปออกมาดี ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 2.91 $ ปิดที่ 76.10 $/bbl กังวลการติดเชื้อในยุโรปจะกระทบดีมานด์ รวมทั้งสหรัฐฯ และจีนอาจระบายน้ำมันในคลังสำรองยุทธศาสตร์เพื่อสกัดราคาน้ำมันสูง มอง SET แกว่งไซด์เวย์-สร้างฐาน ถูกถ่วงจากปัจจัยภายนอกที่เป็นลบทั้งสถานการณ์ระบาดของหลายปท.ในยุโรปและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ดีปัจจับในปท.ยังเป็นบวก หลักๆ จากแนวโน้มการฟื้นตัวทางศก.และคาดหวังมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่มเติมจากภาครัฐ แนวรับ 1640-42, 1635 แนวต้าน 1655-60 อนึ่ง BE8, GSC ติด Cash Balance 22 พ.ย. – 30 ธ.ค.
กลยุทธ์การลงทุน : ลงซื้อ-ขึ้นขาย, พอร์ตลงทุน หาจังหวะอ่อนตัวซื้อคืน
การเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขายทำกำไร/พอร์ตลงทุน หาจังหวะสะสมซื้อช่วงอ่อนตัว-ถือทนแกว่ง เล็งเป้า 1660, 1680
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BJC – ผู้บริหารให้มุมมองสอดคล้องกับที่เราคาดไว้ว่ายอดขายเริ่มดีขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์และศก.เริ่มฟื้นตัว, ขณะที่รายได้ค่าเช่า QTD ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ภาพรวมจะค่อย ๆ ฟื้นตัว เพราะยังต้องพึ่งพาการกลับมาของนทท.ต่างชาติอย่างจริงจังในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า, เราคาดกำไรปี 2022-23F จะเติบโตดี +46% และ +18% ตามลำดับ, ราคายัง Laggard อยู่, เป้าพื้นฐาน 40 บ. / น้ำมันเริ่มเป็นขาลงในระยะสั้น หนุนการเก็งกำไร TASCO, EPG รวมทั้งหุ้นที่ถูกกดดันจากต้นทุนน้ำมันสูงขึ้นช่วงก่อนหน้านี้ OR, PTG, SFLEX / FTSE ทบทวนดัชนี ใช้ราคาปิด 17 ธ.ค. Large Cap และ Mid Cap ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออก / Small Cap เข้า TIDLOR ไม่มีออก / Micro Cap เข้า AMR, ASW, DMT, GROREIT, INETREIT, NSL, SNNP ไม่มีออก / MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทยลง 0.02% สู่ 1.64% ใช้ราคาปิด 30 พ.ย. คิดเป็นเงินไหลออกราว 73 ล้านดอลลาร์ฯ ส่วนผลทบทวนดัชนี MSCI Global Standard ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออก / Small Cap เข้า – BEC, TIPH, TIDLOR ออก - TKN / หุ้นงบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับกำไรขึ้น AH, COM7, III, JWD, ORI, SAT, SIS, WICE / หุ้นที่คาดเป็นเป้าลงทุน SSF&RMF เน้นหุ้น Re-opening ได้ประโยชน์จากศก.ฟื้นตัว BANK - SCB, KBANK / COMM - BJC, CPALL, CRC / Others - ADVANC, BDMS, CPN / หุ้นมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว - CK, STEC, RBF, TIDLOR / หุ้นปันผลหวังผล 3-4 เดือนข้างหน้า KKP, TCAP, KGI, NYT AP, LH, DIF, PROSPECT / หุ้นที่มัก outperform ตลาดในช่วงเงินเฟ้อสูง COMM – CPALL, BJC, CRC / HELTH – BDMS, BCH / INSUR – BLA, THREL / รัฐดึงต่างชาติพำนักและลงทุนในปท. ดีต่อนิคมฯ ชอบ WHA, ROJNA อสังหาฯ AP, LH และรพ. BH, BDMS / ธปท.ผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ดีต่อธุรกิจอสังหา-แบงก์ เด่น AP, LH, SPALI, SCB, BBL, TTB
•หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) ASP, GPSC
•หุ้นเด่น พ.ย. (Smart Tactics) BDMS, JWD, KGI, SCB, SPALI, TIDLOR, TTB, WHA
ข่าวเด่น