ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 3 ธ.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตตามแผนเดิมใน ม.ค. 65
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังการประชุมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) ในวันที่ 2 ธ.ค. 64 มีมติให้เพิ่มกำลังการผลิตตามแผนเดิม ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 65 เนื่องจากทางกลุ่มยังไม่กังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มโอเปกพลัสยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามเป้าหมายรายเดือน เนื่องจากสมาชิกหลายรายยังคงขาดการลงทุน
- สหรัฐฯ แสดงท่าทีพอใจกับการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่กล่าวเสริมว่าสหรัฐฯ ไม่มีแผนที่จะพิจารณาทบทวนการตัดสินใจระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยสหรัฐฯ มีแผนที่จะขายน้ำมันดิบ 32 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์(SPR) สี่แห่ง ที่จะส่งมอบระหว่างปลายเดือน ธ.ค. ถึง เม.ย. 65 และจะผลักดันให้ประเทศอื่นๆ ทำเช่นเดียวกัน
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น แตะระดับ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ พ.ค. 64 ในขณะที่กำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับลดลง 9,000 บาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 2 ธ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 66.50 +0.93
เบรนท์ 69.67 +0.80
ดูไบ 69.23 -2.03
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 2 ธ.ค.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 81.23 -0.86
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 78.10 -1.32
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 79.62 -0.96
น้ำมันเตา (3.5% S) 61.36 -1.88
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ในภูมิภาคที่เพิ่มสูงขึ้นจากฟิลิปปินส์ ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ กว่า 4 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้องกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในเกาหลีใต้เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามราคายังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นจากจีน
ข่าวเด่น