ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 64-69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล


ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 64-69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล


                      

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (6 – 10 ธ.ค. 64)
 
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่อง หลังราคาปรับตัวลดลงมากว่า 10 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไรวัสโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่กระจายไปมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้หลายประเทศมีการใช้มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่เข้มงวดมากขึ้นกดดันความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตตามแผนในการประชุมวันที่ 2 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อุปทานในตลาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการระบายน้ำมันจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) ของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับเลื่อนการปล่อยให้ช้าออกไปจากแผนเดิม หลังราคาน้ำมันมีการปรับลดลงอย่างมากในช่วงปลายเดือน พ.ย.64 ที่ผ่านมาส่งผลให้สหรัฐฯ ไม่มีความจำเป็นในการเร่งเพิ่มอุปทานในตลาด
 
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
 
- การฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันโลกถูกกดดันจากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์โอไมครอนที่กลายเป็นสายพันธุ์หลักของการแพร่ระบาดในหลายประเทศในทวีปแอฟริกาหลังมีการค้นพบเชื้อไวรัสดังกล่าวไม่นาน ขณะที่ล่าสุดไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวได้มีการพบในอีกมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกแล้ว ส่งผลให้หลายประเทศอาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอิสราเอล มีการใช้มาตรการการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดขึ้นเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่มีการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการของความร้ายแรงและความสามารถในการแพร่กระจายของเชื้อสายพันธุ์นี้
 
- จับตาแผนการระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของชาติผู้นำเข้าน้ำมันดิบ หลัง รมว. กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้ที่จะปรับเลื่อนแผนการปล่อยน้ำมันออกจากคลัง SPR ให้ช้าออกไป หลังราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลของตลาดต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโอไมครอนในหลายภูมิภาค จากก่อนหน้านี้ที่มีแผนปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) ทั้งหมดรวม 50 ล้านบาร์เรลเพื่อคลายความตึงตัวของตลาดในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 64 เป็นต้นไป 
 
- กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน ม.ค.64 ที่ 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ม.ค.65 ตามแผนการเพิ่มกำลังการผลิตเดิม โดย รมว.กระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียเจ้าชาย Abdulaziz bin Salman ระบุว่าทางกลุ่มไม่กังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโอไมครอนและยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนแผนการผลิตของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกเดือน พ.ย.64 อยู่ที่ 27.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้จะเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 0.22 ล้านบาร์เรล แต่ยังต่ำกว่าข้อตกลงที่ระดับ 0.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน
 
- การประชุมเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JPCOA) เมื่อวันที่ 29 พ.ย.64 มีความคืบหน้ามากขึ้นหลังผู้แทนเจรจาชุดใหม่ของอิหร่านพร้อมให้ความร่วมมือกับชาติมหาอำนาจในการหาข้อตกลงในประเด็นต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังคงมีข้อสงสัยว่าอิหร่านมีการละเมิดข้อตกลงอยู่หลายประการ เช่นการสะสมยูเรเนียมที่สุงกว่าข้อตกลงถึง 12 เท่า ส่งผลให้ความเป็นไปได้ในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันจากอิหร่านยังคงต้องมีการเจรจาเพิ่มเติม
 
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นาย Jerome Powell มีการแถลงต่อวุฒิสภาว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะเร่งยุติการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ Quantitative Easing (QE) ในช่วงกลางปี 2565 ให้เร็วขึ้น 2-3 เดือน หลังเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งนี้นาย Jerome Powell จะมีการนำมาตรการดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (FOMC) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.64 เพื่อตัดสินใจต่อไป
 
- องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) โลกปีนี้ลง 0.1% เป็นเติบโตที่ระดับ 5.6% จากปัจจัยการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม OECD ยังคงการคาดการณ์ของการเติบโตของ GDP ในปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับปี 2564
 
- ธนาคาร Deutsche Bank คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยในไตรมาส 4 ปีนี้ ที่ 78 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลและจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1 ปี 2565 โดย Deutsche Bank คาดว่าตลาดน้ำมันดิบจะเข้าสู่ภาวะเกินดุล 1.5 ล้านบาร์เรลในไตรมาสแรกปี 2565 จากอุปทานที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากกลุ่มโอเปกและสหรัฐฯ 
 
- เศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมยูโรโซนและญี่ปุ่นไตรมาสที่ 3 ปี 64 ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนและสหรัฐฯ เดือน พ.ย.64 รายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ 
 
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (29 พ.ย. - 3 ธ.ค. 64)  
 
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 1.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 66.26 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 2.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 69.88 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 70.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในยุโรปที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่กระจายไปมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก กดดันการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ย.64 ปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของอุปทานจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือกลุ่มโอเปกในเดือน พ.ย.64 ที่เพิ่มขึ้น 0.22 ล้านบาร์เรลต่อวันต่ำกว่าข้อตกลงที่ตั้งไว้ที่ 0.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ธ.ค. 2564 เวลา : 09:22:32

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:06 am