ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 7 ธ.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดคลายกังวลต่อผลกระทบจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมากขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 4% หลังผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในทวีปแอฟริกาแสดงอาการเพียงเล็กน้อย ขณะที่อัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดมีความคลายวังกลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่มีการรายงานอย่างเป็นทางการถึงความรุนแรงและอัตราการแพร่เชื้อของไวรัสสายพันธุ์นี้
+ การเจรจาการกลับเข้าสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างชาติมหาอำนาจและอิหร่าน (JCPOA) ครั้งที่ 7 ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้ามากนัก หลังเกิดข้อโต้แย้งในประเด็นต่างๆ หลายประการระหว่างการประชุม ส่งผลให้ความเป็นได้ในการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่านถูกกดดัน
+/- บริษัทเบเกอร์อิวจ์รายจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 3 ธ.ค.64 ทรงตัวที่ระดับ 467 แท่น เช่นเดียวกับจำนวนแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติที่ทรงตัวอยู่ระดับ 102 แท่น
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 6 ธ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 66.49 +3.32
เบรนท์ 73.08 +3.20
ดูไบ 70.29 -0.63
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 6 ธ.ค.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 82.68 -0.46
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 79.32 -1.13
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 81.27 -1.00
น้ำมันเตา (3.5% S) 62.37 -0.24
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซีย ขณะที่ดัชนีการใช้รถใช้ถนนในหลายประเทศในเอเชียกลับไปสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเกาหลีใต้ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์สิ้นสุดวันที่ 1 ธ.ค.64 ที่ปรับลดสู่ระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 3 ปี
ข่าวเด่น