ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 8 ธ.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนอาการไม่รุนแรงมากนัก
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่า อาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนยังไม่มีความรุนแรงมากนัก ส่งผลให้ตลาดคาดว่าอุปสงค์มีแนวโน้มฟื้นกลับมาได้ในอีกไม่ช้า อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโอไมครอน ยังสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วกว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดิม ส่งผลให้มีการติดเชื้อแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
+ นักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 3 ธ.ค 64 ปรับตัวลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากความคลายกังวลเรื่องเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ท่ามกลางอุปทานที่ยังตึงตัว
+ การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้อิหร่านยังไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้ในเร็ววันนี้ ขณะที่เยอรมนีขอให้อิหร่านยื่นข้อเสนอที่ตรงกับความเป็นจริงเพื่อใช้ในการเจรจาข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 7 ธ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 72.05 +2.56
เบรนท์ 75.44 +2.36
ดูไบ 73.35 +3.06
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 7 ธ.ค.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 86.61 +3.93
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 82.84 +3.52
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 84.42 +3.15
น้ำมันเตา (3.5% S) 64.87 +2.50
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคลายความกังวลต่อเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ส่งผลให้อุปสงค์การใช้น้ำมันเบนซินในประเทศ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี อัตราการผลิตน้ำมันทางฝั่งสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
แล้ว
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในสิงคโปร์อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 3 ปี อย่างไรก็ตาม ระดับการผลิตน้ำมันในจีนยังคงปรับตัวสูงขึ้น
ข่าวเด่น