ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 13 ธ.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังนักลงทุนคลายกังวลผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่าจะมีผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
+ การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกยังคงดำเนินต่อเนื่องในอาทิตย์นี้ หลังทั้งสองฝ่ายยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งจะชะลอการกลับมาของอิหร่านในการส่งออกน้ำมันดิบ
- อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 6.8% จากปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 39 ปี โดยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาด ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจจะมีการยกเลิกมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรและเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด โดย FED จะมีการประชุมในวันที่ 14-15 ธ.ค. นี้
- ความต้องการใช้น้ำมันของจีนมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากนโยบายการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และความเสี่ยงของการชะลอตัวลงของภาคอสังหาริมทรัพย์ หลัง Fitch ปรับลดความน่าเชื่อถือของบริษัท Evergrande และ Kaisa ลง
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 10 ธ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 71.67 +0.73
เบรนท์ 75.15 +0.73
ดูไบ 72.89 -1.71
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 10 ธ.ค.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 89.48 +0.43
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 84.28 -0.37
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 85.63 -0.47
น้ำมันเตา (3.5% S) 64.80 -1.43
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากเวียดนาม และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงกว่า 3 แสนบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้ามาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ราว 11.96 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงกว่า 6 แสนบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ราว 7.41 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีใต้
ข่าวเด่น