ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 14 ธ.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับลด ท่ามกลางความกังวลผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ต่ออุปสงค์น้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron มีความเสี่ยงในระดับสูงมากท่ามกลางการแพร่ระบาดในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งมีหลักฐานพบว่าไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้ ในขณะที่อังกฤษยืนยันพบผู้ป่วยรายแรกที่เสียชีวิต รวมทั้งจีนที่ยกระดับมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความกังวลต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ Omicron ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกดดันความต้องการใช้น้ำมัน
+ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันในยุโรปมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังราคาก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าและภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ หันมาใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าแทน
+ การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทำให้ชะลอการกลับมาของอิหร่านในการส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลก
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 13 ธ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 71.29 -0.38
เบรนท์ 74.39 -0.76
ดูไบ 74.27 +1.38
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 13 ธ.ค.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 91.05 +1.57
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 85.38 +1.10
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 86.59 +0.96
น้ำมันเตา (3.5% S) 66.29 +1.49
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ออสเตรเลียที่ประกาศผ่อนคลายการข้ามชายแดนระหว่างรัฐ แม้พบผู้ติดเชื้อจากโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ในประเทศก็ตาม
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการที่จีนคาดว่าจะส่งออกน้ำมันดีเซลมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่ปรับเพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น