ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 16 ธ.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดมากกว่าคาด จากความต้องการใช้ที่อยู่ใน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ธ.ค. 64 ปรับตัวลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 428.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับลดมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปมีการปรับตัวลดลงเช่นกัน สะท้อนถึงความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง
+/- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) รายงานการติดเชื้อของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนใน 36 รัฐมีอัตราการแพร่ระบาดสูงกว่าสายพันธุ์เดลต้า อย่างไรก็ตาม จากสถิติพบว่าการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 สามารถลดอัตราการติดเชื้อได้กว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับวัคซีน 2 โดส
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แถลงจะยุติการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือน มี.ค. 65 ซึ่งเป็นการยุติการใช้นโยบายที่เร็วขึ้นกว่าเดิม และจะเพิ่มการปรับลดวงเงินเป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 65 จากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ลดความน่าสนใจในการลงทุนในสัญญาน้ำมันสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 16 ธ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 70.87 +0.14
เบรนท์ 73.88 +0.81
ดูไบ 72.16 -1.32
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 16 ธ.ค.64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 87.38 -2.72
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 83.92 -1.37
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 84.77 -1.42
น้ำมันเตา (3.5% S) 65.49 -0.64
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังกำลังการผลิตของโรงกลั่นในมาเลเซียปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศอินเดียปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันในเอเชียยังคงได้รับแรงหนุนจากดัชนีการขับขี่ในหลายประเทศที่อยู่ในระดับสูงกว่า ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในมะละกา ประเทศมาเลเซียกลับมาดำเนินการผลิตจากการซ่อมบำรุง ขณะที่ความต้องการใช้สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าถูกกดดันจากอุณหภูมิที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในทวีปเอเชียเหนือ
ข่าวเด่น