ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET +21.66 จุด ต่างชาติซื้อหนัก หลังผลประชุม FED ชัดเจน


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +21.66 จุด ต่างชาติซื้อหนัก หลังผลประชุม FED ชัดเจน

SET ไต่ขึ้นแรงเกินคาด ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตลาดภาคเช้าจนถึงปิดตลาดภาคบ่าย ปิดระดับสูงสุดของวันที่ 1645 ตามทิศทางตลาดหุ้นโลกที่ปรับขึ้น ขานรับผลประชุม FED ชัดเจนตามตลาดคาด นำตลาดขึ้นโดยกลุ่มแบงก์และหุ้นพลังงานทางเลือก ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิสูงถึง 4.66 พันลบ. และพลิก Long S50 Futures 12,427 สัญญา 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ซิกแซกขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน, ทุนตปท.มีสัญญาณบวก 
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (16 ธ.ค.) ปิดสวนทางกัน โดยหุ้นยุโรปปิดบวก หลังอนุมัติฉุกเฉินใช้ยาแพกซ์โลวิครักษาผู้ป่วยCOVID-19 และผลประชุม ECB เป็นไปตามคาด โดยจะยุติโครงการ PEPP ใน มี.ค. 2022 พร้อมเปิดช่องใช้มาตรการอื่นหากมีความจำเป็น ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ช่วงแรกปรับขึ้นไปก่อน นำโดยหุ้นวัฎจักร แต่หุ้นเทคโนโลยีถูกขายทำกำไรกดดันตลาดพลิกปิดร่วงในที่สุด ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นต่อ 2 วันติด คาดความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งและดอลลาร์ฯ อ่อนค่า  มอง SET มีโอกาสแกว่งซิกแซกขึ้น จากกระแสเงินทุนตปท.มีสัญญาณบวกพร้อมโมเมมตัมที่ดีทางปัจจัยเทคนิค มีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1650 และ 1660+/- ตามลำดับ อย่างไรก็ดี แนวต้านดังกล่าวคาดจะแกว่งผันผวนจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น มีแนวรับ 1635, 1630 แนะจับตาสถานการณ์   Omicron ที่ระบาดหนักในยุโรป และความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านกม.คว่ำบาตรจีนเพิ่มเติมกรณีบังคับใช้แรงงาน อนึ่ง คาด ARIN, CFRESH, FVC, GCAP, GLOCON, GLOCON-W4, JAS, JSP, PPS, SECURE, SICT, YGG จะติด Cash Balance เย็นนี้ 

กลยุทธ์การลงทุน : เลือกเทรดดิ้งสั้นเป็นรายตัว, พอร์ตลงทุนรอจังหวะสะสม
 
หลัง SET ขึ้นมาใกล้ 1650 มอง Upside จำกัดมากขึ้น, ขึ้นเน้นขายมากกว่าซื้อ และเลือกเทรดดิ้งสั้นเป็นรายตัว  / พอร์ตลงทุน มองตลาดช่วงต้นปีหน้ามีโอกาสผันผวน แนะรอจังหวะทยอยสะสมที่ SET ระดับ 1600 หรือต่ำกว่า 
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BEC – ภาพรวมสื่อโฆษณาเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ ต.ค. หลังคลายล็อกดาวน์ คาดจะกลับมาเติบโตได้ในปี 2022F จากฐานที่ต่ำและภาวะศก.ที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ, BEC เป็นหนึ่งในหุ้นที่เราชอบที่สุดในกลุ่ม MEDIA, คาดกำไรปี 2022F โต 49% มาที่ 972 ลบ.จากปีนี้ที่คาดมีกำไร 654 ลบ.และกลับมาจ่ายเงินปันผลในต้นปีหน้า นับเป็นครั้งแรกรอบ 4 ปี ผลจากกลยุทธ์ Single Content, Multiple Platform ขณะที่เตรียมประกาศพันธมิตรขยายธุรกิจภาพยนตร์-ทำค่ายเพลงโดยใช้ศิลปินดาราในค่ายสังกัดช่วยสร้างรายได้และงานกิจกรรมเพิ่มขึ้น, เป้าพื้นฐาน 16.5 บ. / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มดบ.ปรับขึ้น - BBL, SCB, TTB, BLA และโอกาสเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าจาก FED เข้มงวดขึ้น - HANA, KCE, MEGA, TWPC / หุ้นคาดเข้า SET50 – AWC, TIDLOR, BANPU ออก – STA, RATCH, DELTA / คาดเข้า SET100 - AWC, TIDLOR, KEX, STARK, BPP, BLA, RCL, EPG, VIBHA, DCC, TIPH, BA ออก - TKN, NRF, AAV, ICHI, PRM, RS, MAJOR, STEC, SYNEX, AMATA, SINGER, DELTA / FTSE ทบทวนดัชนี ใช้ราคาปิด 17 ธ.ค. Large Cap และ Mid Cap ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออก / Small Cap เข้า TIDLOR ไม่มีออก / Micro Cap เข้า AMR, ASW, DMT, GROREIT, INETREIT, NSL, SNNP ไม่มีออก / หุ้นปันผลหวังผล 3-4 เดือนนี้ KKP, TCAP, KGI, NYT, AP, LH, DIF, PROSPECT / หุ้นที่มัก outperform ตลาดในช่วงเงินเฟ้อสูง COMM – CPALL, BJC, CRC / HELTH – BDMS, BCH / INSUR – BLA, THREL / รัฐดึงต่างชาติพำนักและลงทุนในปท. ดีต่อนิคมฯ ชอบ WHA, ROJNA อสังหาฯ AP, LH และ BH, BDMS 
 
•หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) CK, TIDLOR
•หุ้นเด่น ธ.ค. (Smart Tactics) ADVANC, EGCO, HMPRO, JWD, RBF, TTB 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ธ.ค. 2564 เวลา : 12:53:48

17-06-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 17, 2024, 7:13 pm