ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 6 ม.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับลดต่อเนื่อง ท่ามกลางสต๊อกผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 64 ปรับตัวลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 417.9 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต๊อกผลิตภัณฑ์สหรัฐฯ ยังคงปรับเพิ่ม สืบเนื่องจากตลาดยังกังวลต่อผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงปลายปี
+ ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง แม้โอเปกพลัสจะมีแผนการปรับเพิ่มการผลิต แต่เป็นการปรับขึ้นตามคาดที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ตามที่ดำเนินการในแต่ละเดือนมาตั้งแต่เดือน ส.ค. 64 แม้ถูกกดกันจากสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรให้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้ เพื่อชะลอการพุ่งของราคาน้ำมัน
- ตลาดจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หลังจำนวนยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น และมีจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านรายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปรับลดลง หลังจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 5 ม.ค.65 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 77.85 +0.86
เบรนท์ 80.80 +0.80
ดูไบ 78.54 +0.95
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 5 ม.ค.65 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 93.35 -0.10
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 88.80 +1.77
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 91.64 +1.37
น้ำมันเตา (3.5% S) 71.02 +0.33
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานจากจีนและไต้หวันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่มีทิศทางฟื้นตัว
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนประกาศปรับลดโควต้าการส่งออกลงกว่าร้อยละ 56 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 อีกทั้งอินโดนีเซียระงับการส่งออกถ่านหินในเดือน ม.ค. 65 ส่งผลให้คาดว่าจะมีความต้องการใช้พลังงานอื่น เช่น น้ำมัน เป็นพลังงานทดแทน
ข่าวเด่น