ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +1.52 จุด ปิด 1680 เงินเฟ้อสหรัฐฯ ขยายตัวตามคาด


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +1.52 จุด ปิด 1680 เงินเฟ้อสหรัฐฯ ขยายตัวตามคาด

SET แกว่ง +/- สลับกันในกรอบแคบ ๆ 1675-82 ปรับขึ้น 3 วันติด ปิดระดับ 1680 สูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ขานรับเงินเฟ้อสหรัฐฯ ขยายตัว 7% แม้เป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 40 ปี แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด , มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงิน (BANK, FIN) ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.14 พันลบ. 5 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures 8,538 สัญญา 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ย่อลง-พักฐาน ปธ.FED หลายสาขามีท่าที Hawkish
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (13 ม.ค.) ปิดสวนทางกัน โดยหุ้นยุโรป +/- เล็กน้อย ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงแรง จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นโดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ หลังตลาดปรับขึ้น 3 วันติด ถูกกดดันจากปธ.FED หลายสาขา รวมทั้ง คุณ Lael Brainard หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการ FED มีท่าที Hawkish โดยระบุ FED พร้อมจะขึ้นดบ.ใน มี.ค. และจำเป็นต้องปรับนโยบายการเงินเชิงรุกมากขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนลงเล็กน้อย -52 เซนต์ ปิดที่ 82.12 $/bbl จากแรงขายทำกำไร กังวล FED เร่งขึ้นดบ. มอง SET มีแนวโน้มย่อตัวลง ถูกกดดันจาก 1)นโยบายการเงินสหรัฐฯ ที่อาจเข้มงวดเร็วกว่าคาด และ 2) ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง แต่ด้วยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง ล่าสุดแตะระดับ 94.5 จุด ต่ำสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน และ Bond Yield ที่อ่อนตัวลงต่อมาที่ระดับ 1.70% จากจุดสูงสุดที่ 1.8% ในช่วงก่อนหน้านี้ น่าจะหนุนเงินทุนตปท.มีทิศทางไหลเข้าอยู่ ช่วยให้การปรับตัวลงของตลาดไม่ลึก วันนี้แนะนำติดตามรองนายกฯ และรมว.คลังหารือการออกแพ็กเกจลดค่าครองชีพปชช. และการเริ่มต้นทยอยประกาศงบ Q4 ของหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ และแบงก์ไทย แนวรับ 1675, 1670 แนวต้าน 1685, 1690 อนึ่ง คาด AQUA, EVER, GLORY, OTO, OTO-W1, SNNP, WAVE, WAVE-W2 จะติด Cash Balance เย็นนี้ / CPW, SABUY, SABUY-W1 ติด Cash Balance ถึง 14 ม.ค. / DITTO ติดถึง 17 ม.ค. (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา) 
 
กลยุทธ์การลงทุน : เลือกเทรดดิ้งสั้นเป็นรายตัว, พอร์ตลงทุนรอจังหวะสะสม
 
เมื่อวาน SET ปิดเป้าแรก 1680 สำเร็จ เล็งเป้าถัดไปขึ้นทดสอบ 1700 แต่ ณ ระดับดังกล่าว เรามองเป็นจังหวะทยอยขายล็อกกำไร, การเทรดดิ้งสั้น แนะเลือกเป็นรายตัว / พอร์ตลงทุน รอจังหวะทยอยสะสมช่วงตลาดผันผวน 
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BEM – มองผ่านช่วงเวลาที่แย่ที่สุดไปแล้ว คาดผลประกอบการ 4Q21F จะฟื้นตัวโดดเด่น มีกำไรสุทธิ 248 ลบ. +129% QoQ และกำไรสุทธิปี 2022F คาดอยู่ที่ 2.9 พันลบ. โต 2 เท่าจากที่มีกำไรเพียง 863 ลบ.ในปี 2021F ตามการฟื้นตัวของรถใช้ทางด่วนและผู้โดยสาร MRT ขณะที่ Omicron ส่งผลกระทบจำกัด เนื่องจากรัฐไม่ล็อกดาวน์และเร่งกระจายวัคซีนเข็มกระตุ้น, ปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น คือ โครงการภาครัฐที่จะเริ่มทยอยเปิดประมูลในปีนี้ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (คาดเปิดประมูลใน 1H22) รวมไปถึงโครงการมอเตอร์เวย์ต่างๆ, แนะทยอยสะสม, เป้าพื้นฐาน 9.8 บ. / IAA Survey มองเป้า SET ปีนี้ที่ 1760 หุ้นแนะนำ คือ ADVANC, CPALL, EA, KBANK, SCB / ครึ่งปีแรกเน้น Value & Dividend หุ้นเด่น ADVANC, BDMS, DTAC, EGCO, KKP, SCB, SPALI, WHA / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากแนวโน้มดบ.ขาขึ้น - BBL, SCB, TTB, BLA / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภค ชอบ AEONTS, BJC, COM7, DOHOME, GLOBAL การลงทุน ADVANC, CK, STEC, ROJNA, WHA / หุ้นปันผลหวังผล 3-4 เดือนนี้ BANK & FIN - KKP, TCAP, ASK, ASP, KGI PROP - AP, LALIN, LH, PREB, SC, SENA OTHERS - LST, TVO, NYT, SCCC, TPIPP, DIF, PROSPECT / หุ้นที่มัก outperform ตลาดในช่วงเงินเฟ้อสูง COMM – CPALL, BJC, CRC / HELTH – BDMS, BCH / INSUR – BLA, THREL
 
• หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) RBF, SPRC / หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) BEC, BJC, DCC, KKP, TPIPL, TVO / หุ้นเด่นครึ่งปีแรก ADVANC, BDMS, DTAC, EGCO, KKP, SCB, SPALI, WHA  
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 ม.ค. 2565 เวลา : 10:53:29

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:27 am